ครอบครัวรายได้น้อยรับเงินเลี้ยงดูบุตร 600 บาทจนถึง 6 ขวบ

กรมกิจการเด็กและเยาวชน เร่งอบรมเจ้าหน้าที่ รับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ์ได้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

วันที่ 8 เม.ย. 2562 นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า จากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ให้ขยายระยะเวลาและฐานรายได้ของกลุ่มเป้าหมายการรับเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยได้ปรับเพิ่มจากปี 2558 และปี 2559 จากเดิมตั้งแต่แรกเกิด ถึง 3 ปี วงเงิน 600 บาทต่อคนต่อเดือน ให้กับครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 36,000 บาทต่อคนต่อปี ขยายเป็นตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี วงเงินอุดหนุน 600 บาทต่อคนต่อเดือน และเพิ่มเกณฑ์เงินอุดหนุนเป็นครัวเรือนละไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคนต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์รายได้ของผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ

การขยายกรอบอายุช่วยเหลือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พร้อมขยายฐานรายได้ครัวเรือนครั้งนี้ เด็กที่ได้รับสิทธิ์ปีงบประมาณ 2559-2561 จะได้รับสิทธิ์ต่อเนื่องจนถึง 6 ปี โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ส่วนเด็กที่เกิดตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 ที่มีคุณสมบัติและไม่เคยใช้สิทธิ์ มีสิทธิ์ได้รับเงินตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 จนถึงอายุครบ 6 ปี สามารถขอรับสิทธิได้แต่ไม่สามารถรับเงินย้อนหลังได้ และเด็กแรกเกิดที่เกิดในปี 2562 จะได้รีบเงินอุดหนุนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปีตามเงื่อนไข แต่หากลงทะเบียนช้าหลังจากปีงบประมาณ 2562 ไปแล้ว จะได้รับเงินนับจากวันที่ลงทะเบียนเป็นต้นไปจนถึงอายุครบ 6 ปี

กรมกิจการเด็กและเยาวชน จึงเร่งรัดจัดทำรายละเอียดแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในการอนุมัติจัดสรรงบกลางอีกครั้ง พร้อมทั้งจัดอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโครงการในระดับพื้นที่ ระหว่างวันที่ 9 – 26 เมษายนนี้ ใน 4 ภาค เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินงาน การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นของระบบการลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในทุกขั้นตอน คาดว่าผู้ที่มีสิทธิมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ สามารถยื่นขอรับสิทธิได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป พร้อมคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้แก่ผู้มีสิทธิ์ได้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป