วสท.ยืนยันโครงสร้างอาคารเซ็นทรัลเวิลด์แข็งแรง พฐ.เตรียมตรวจจุดต้นเพลิง

วสท. ยืนยันโครงสร้างอาคารห้างเซ็นทรัลเวิลด์แข็งแรง ขณะที่ พฐ.ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบจุดที่คาดว่าจะเป็นต้นเพลิงได้ เนื่องจากมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร

เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร, รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย, นายนพดล ฉายปัญญา ผู้อำนวยการกองควบคุมอาคารสำนักงานโยธา, นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการสำนักการโยธา, นายพิชญะ จันทานุวัฒน์ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และพินิต อารยะศิลปธร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตปทุมวัน ร่วมแถลงข่าวภายหลังเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารเหตุไฟไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา

รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการวิศวกรรมแห่งประเทศไทยฯ  (วสท.) กล่าวว่า เบื้องต้นพบ มีคราบเขม่าดำเป็นบางส่วนของอาคาร ซึ่งเป็นทางเดินควัน ซึ่งในส่วนของโครงสร้างอาคารยังคงแข็งแรงเพียงพอสามารถใช้งานได้ หลังเคลียร์พื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางสำนักงานเขตว่า จะเปิดให้บริการได้หรือไม่ โดยหลังจากนี้สภาวิศวกรจะเรียกดูเอกสารทั้งการออกแบบอาคาร และโครงสร้างว่าเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่

ด้าน นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ จากการตรวจสอบพบว่า ต้นเพลิงมาจากชั้น B 2 เป็นห้องไฟท์ปั้ม หรือ ห้องปั้มน้ำดับเพลิง ซึ่งเป็นจุดอับทำให้ควันจากความร้อนลอยสูงขึ้นไปตามท่อระบายอากาศขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้น 8 ซึ่งเป็นท่อแนวดิ่ง ก่อนจะเจอท่อระบายอากาศที่เป็นแนวนอนที่เชื่อมต่อกันเพื่อระบายอากาศออกนอกอาคาร แต่พบว่า ขณะเกิดเหตุมีควันที่มีความร้อนสูงขึ้นมาตามท่อระบายอากาศ เมื่อถึงรอยเชื่อมระหว่างท่อ ทำให้ท่อแนวนอนไม่สามารถรองรับความร้อนจากควันดังกล่าวได้ เป็นเหตุให้พังลงมา ทำให้อากาศไม่ออกสู่ภายนอกและกระจายทั่วชั้น 8

ขณะที่ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบจุดที่คาดว่าจะเป็นต้นเพลิงได้ เนื่องจากมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร และมีความร้อนสะสม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำการระบายน้ำและความร้อน เพื่อความปลอดภัยก่อน

ส่วนจุดที่คาดว่าจะเป็นต้นเพลิง สันนิษฐานว่า เป็นท่อระบายอากาศที่เชื่อมต่อกับระบบบำบัดน้ำ ซึ่งเดิมจะมีก๊าซจากบ่อบำบัดสะสมอยู่ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีเครื่องจักรที่คาดว่าจะทำให้เกิดประกายไฟได้ จึงต้องรอเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง