Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 20 เม.ย. 62 เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือทัวร์เบ็ด ซึ่งจอดอยู่บริเวณท่าเรือทัวร์เบ็ด ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือปากบารา บริเวณหลังสำนักงานที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
นายธานี หะยีมะสาและ นายอำเภอละงู จ.สตูล เดินทางมายังที่เกิดเหตุพบเรือจำนวนหลายลำกำลังถูกไฟโหมไหม้อย่างรุนแรง ชาวบ้านได้ช่วยกันตัดเชือกเรือเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกไหม้ไปยังเรือใกล้เคียงที่จอดเรียงรายกว่า 30 ลำ โดยมีรถดับเพลิงจาก อบต.ปากน้ำ อบต.ละงู เทศบาลตำบลกำแพง จำนวน 5 คัน มาช่วยดับเพลิงและสกัดกั้นไม่ให้ลุกลามไปยังลำใกล้เคียง เจ้าของเรือต้องนำเรือไปจอดไว้ยังฝั่งตรงข้ามเพื่อไม่ให้เปลวไฟหรือสะเก็ดไฟกระเด็นใส่
หลังเพลิงสงบพบว่ามีเรือทัวร์เบ็ดได้รับความเสียหายจำนวน 8 ลำ เสียหายวอดทั้งลำ 6 ลำ และที่ยังเห็นเป็นตัวเรืออีก 2 ลำ โดยเรือทัวร์เบ็ดทั้ง 8 ลำ ได้แก่ เรือโชควรรษพร เรือเพชรมาริน เรือกพฟารี เรือยอนำเจริญ หรือรุ่งทิตย์ เรือบุษบา เรือโชคกำพล และเรือโชตกิติการณ์ โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยทางอำเภอละงูได้ให้เจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะรับแจ้งความเสียหายจากเจ้าของเรือเนื่องจากเรือทุกลำมีทะเบียนถูกต้องทั้งหมด

นางรุ่งทินี มีอำพล ภรรยาเจ้าของเรือโชคกิจการ กล่าวว่า ทราบข่าวเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ มีเพื่อนโทรมาบอกว่าเรือทัวร์เบ็ดถูกไฟไหม้ จึงได้ออกมาดูพบว่าเรือไหม้ไปทั้งลำแล้ว ก็ตกใจไม่นึกจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เพราะเรือมีการจองทัวร์มาล่วงหน้าแล้วด้วย จากที่เห็นเรือไหม้จากโซนแรกก่อนและลามเข้ามาด้านใน เพราะเรือจะผูกติดๆ กันเป็นแถวๆ

ด้านนายวาหลาด เกษม ประธานชมรมเรือทัวร์เบ็ดปากบารา กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีไฟลุกไหม้เต็มลำเรือและมีเสียงระเบิดซึ่งคาดว่าเกิดจากถังแก๊สในเรือ มีเสียงระเบิดดังมาเป็นระยะๆ ตนเร่งให้เจ้าของเรือรีบตัดเชือกเรือนำเรือที่ยังไม่ถูกไฟไหม้ลากไปที่ปลอดภัย เรือแต่ละลำมีอุปกรณ์พร้อมสำหรับที่จะออกเรือโดยบางลำจะออกในเช้าวันนี้เพราะมีชาวอินโดมาเช่าเหมาตกปลาแล้ว โดยเรือถูกไฟไหม้จนเสียหายทั้งหมดจมไปแล้วหลายลำเห็นเพียงแต่เสากระโดงเรือ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบ แต่ความเสียหาย หากเป็นเรือขนาดกลางราคาอยู่ที่ 1 ล้าน 5 แสนบาท หากเป็นเรือขนาดใหญ่ลำละ 2 ล้านบาท

สำหรับเรือลำที่ได้รับความเสียหายต้องลากไปไว้ปากคลองบริเวณแหลมเตะบันเพื่อให้จมลงในบริเวณดังกล่าวและไม่ให้ลุกลามไปยังเรือสปิทโบ๊ทหรือเรือท่องเที่ยว ซึ่งค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องรอเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอีกครั้ง

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า