เพื่อไทย ประชุมใหญ่ ปฏิเสธเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเตรียมเป็นฝ่ายค้าน

เพื่อไทย เรียก ว่าที่ ส.ส. ประชุมใหญ่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี จับเซ็นคำปฏิญาณร่วมต่อต้านเผด็จการ ขณะที่ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” บอกไม่รู้ถูกดันนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ด้าน เลขาธิการพรรค ยืนยัน ยังไม่คิดเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเวลานี้ ถ้าเปลี่ยนเท่ากับยอมรับว่าแพ้เตรียมเป็นฝ่านค้าน

วันที่ 21 เม.ย. พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่ประจำปีครั้งแรก เพื่อลงมติวาระต่างๆ โดยเฉพาะ งบการเงิน รายงานผลการดำเนินการในรอบปีที่ผ่านมา หลังจากไม่ได้ประชุมพรรคมานานกว่า 5 ปี โดยมีแกนนำพรรค ฝ่ายกฎหมาย และ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติที่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมประชุมอย่างคับคั่ง

(สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ / ภาพจากรัฐสภา)

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า ในการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ มีกระแสข่าวถึงการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค จาก พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวิวัฒน์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งเมื่อเจ้าตัวถูกผู้สื่อข่าวทักทายถึงเรื่องนี้ก็ได้หัวเราะและตอบว่า “ผมไม่รู้อะไรสักอย่าง”

ทีมข่าวรายงานด้วยว่า ในวันนี้ได้มีการเปิดให้ “ว่าที่ส.ส.” ที่ยังไม่ได้เซ็นคำปฏิญาณตนเพื่อสืบทอดเจตนารมย์ต่อต้านเผด็จการมาลงนามเพิ่มเติมได้ครบด้วย

นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย​ กล่าวถึงเรื่อง “รัฐบาลแห่งชาติ” ว่า เป็นข้อเสนอที่รัดขั้นตอน ไม่สมบูรณ์ ขณะนี้ยังเชื่อว่าถ้ากระบวนการต่างๆ ทำงานเต็มที่จะไปได้ และยืนยันว่า พรรคการเมือง7 พรรค ที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจยังมีความแข็งแรงในการจับมือกัน และยังหนักแน่นในสิ่งที่เราประกาศว่าจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ และสืบทอดเจตนารมณ์ของประชาชน หากจะฝืนแย้งชิงอำนาจไปเพื่อกลุ่มของ ตนก็ต้องใช้กระบวนการนอกรัฐธรรมนูญ จะด้วยการซื้องูเห่า งูจงอาง หรืองูเขียวก็ตาม เป็นวิธีการที่ไม่สง่างาม และสร้างกระบวนการที่น่ารันทดให้กับระบบประชาธิปไตยซึ่งประชาชนจับตาดูอยู่ หากใครทำเช่นนั้นจะอยู่ในสายตาของพี่น้องประชาชน และจะมีการต่อการตัดสินใจของประชาชนวันข้างหน้า ดังนั้นพรรคใดที่ตัดสินใจใช้วิธีการแบบนี้ประชาชนจะได้เห็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงในการสืบทอดอำนาจ และวันนี้เมื่อกระบวนการต่างๆ อยู่ในสายตาประชาชน

ถ้ากกต.ประกาศผลอย่างมีเหตุผลก่อนวันที่ 9 พ.ค.ทุกอย่างก็จบ แต่ถ้ายืนยันเอาใจใครบางคนมันจะไม่จบง่ายๆ หากเป็นแบบนั้น กกต.ต้องมีความกล้าหาญมากที่จะต้องเผชิญกับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นต้องทำให้ชัดเจน และวันนี้ไม่ว่าฝ่ายไหนจะได้จัดตั้งรัฐบาล รัฐบาลที่ออกมาจะไม่มีเสถียรภาพ เราจึงขอให้สมาชิกอยู่กับประชาชนเตรียมความพร้อม หากมีสถานการณ์อะไรที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรายังไม่คิดไปไกลขนาดนั้น ตอนนี้ผลการเลือกตั้งยังไม่ทราบเราต้องรอให้ กกต.ทำหน้าที่ของตัวเอง จากนั้นจะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทุกอย่างจะเดินได้ และรู้ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล รวมถึงตัวผู้นำฝ่ายค้านก็จะเลือกในช่วงเดือน ก.ค. ถ้าเรามาคิด เรื่องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคก็เท่ากับเรายอมแพ้ ดังนั้นวันนี้เราจึงให้ความสำคัญกับการจัดตั้งรัฐบาลก่อน

เมื่อถามว่า หากวันที่ 9 พ.ค. กกต.ไม่สามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นถือว่า กกต.กล้าหาญมาก กกต.ก็ต้องพร้อมเผชิญกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพราะเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของกกต. เพราะที่ผ่านมาไม่มีกระบวนการไหนไปขัดขวางการทำงานของ กกต.ได้เลย วันนี้มีแต่คนต้องการให้กกต.ทำทุกอย่างให้ชัดเจน หากยังทำไม่ได้ กกต.ก็ควรพิจารณาตัวเองว่าความบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ในส่วนที่ต้องรับผิดชอบอย่างไร