กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตเรียกร้องให้รัฐทบทวนนโยบายลดสวัสดิการ

กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง (กสรก.) ยื่นจดหมายถึงรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน เรียกร้องให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 425 บาท ขอให้รัฐทบทวนนโยบายปรับค่าโดยสาร-ค่าไฟ และปรับโครงสร้างการความมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับการต่อรองคุณภาพชีวิตแรงงาน

วันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 9.00 น. กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียงเดินขบวนไปยังสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี ยื่นข้อเรียกร้องเนื่องในวันกรรมการสากล 2562 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานผ่านนายสมพจน์ กวางแก้ว หัวหน้าสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี โดยเรียกร้องทั้งหมด 8 ข้อด้วยกัน

1. ให้มีมาตรการเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน ดังนี้
1.1 ให้ยกเลิกการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยเฉพาะรถสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ
1.2 ให้นำนโยบาย ‘รถเมล์-รถไฟฟรี’ กลับมาบริการประชาชนอีกครั้ง
1.3 ให้ยกเลิกการเก็บ ‘ค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ’ / ‘ค่าไฟฟ้าผันแปร’ (หรือค่า Ft)
1.4 ให้รัฐมีมาตรการเพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอย่างเป็นรูปธรรม

2. ให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 425 บาท เท่ากันทั่วประเทศ
3. ให้รัฐเร่งให้สัตยาบันในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิการรวมกลุ่ม ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2491) และฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมกลุ่มและการเจรจาต่อรองร่วม ค.ศ. 1949 (พ.ศ. 2492) โดยเร็ว
4. ปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม เพื่อให้ผู้ประกันตนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดยสำนักงานประกันสังคมมีสถานะเป็นองค์กรมหาชน และมีตัวแทนของผู้ใช้แรงงานเป็นกรรมการไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด เนื่องด้วยผู้ใช้แรงงานเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียและเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
5. ให้รัฐจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมในอัตราเดียวกันกับนายจ้างและผู้ประกันตน
6. ให้มีระบบประกันสุขภาพมาตรฐานเดียวทั่วประเทศ แก่ผู้ที่พักอาศัยหรือทำงานอยุ่ในต่างประเทศไทยทุกคน โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ และไม่ต้องจ่ายเงินสมทบล่วงหน้า
7. ให้เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็น 2,000 บาท เท่ากันทุกช่วงอายุ
และ 8. ให้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาอื่นๆ ของประชาชน

กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและย่านใกล้เคียง เป็นการรวมกลุ่มของสภาพแรงงานในโรงงานต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดปทุมธานีและรอบข้าง เช่น สหภาพแรงงานไทเรยอน สหภาพแรงงานผู้ปฏิบัติงานฝาจีบ สหภาพแรงงานเทสโก้โลตัส เพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิแรงงานต่าง ๆ เช่นกรณีนายจ้างไม่จ่ายค่าแรง หรือเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และผลักดันประเด็นแรงงานในวันสำคัญ เช่นวันสตรีสากล วันกรรมการสากลหรือวันแรงงานแห่งชาติ และวันงานที่มีคุณค่า โดยปัจจุบันกลุ่มนี้ก่อตั้งได้ 40 ปีแล้ว

“ปัญหาของพี่น้องผู้ใช้แรงงานในเมืองไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นปัญหาที่สะสมมานาน ข้อเรียกร้องต่าง ๆ ที่เราเรียกร้องต่อรัฐบาล เวลายื่นก็รับทุกที แต่ว่าแต่ละปีที่ผ่านไปก็ไม่ได้รับการแก้ไข” ศรีโพธิ์ วายุภักดิ์ อดีตประธานสหภาพแรงงานไทยเรยอนกล่าว “ในวันนี้พวกเราก็มายื่นหนังสือกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเพื่อที่จะย้ำข้อเรียกร้องเหล่านี้ที่เราต้องการ”

นายเดือน เชียงสุข รองกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและย่านใกล้เคียงกล่าวว่าการมียื่นข้อเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อต่อว่าหน่วยงานราชการ เพียงแต่บางครั้งปัญหาก็เล็ดลอดการสอดส่องของเจ้าหน้าที่ไปได้ “ท่านเข้าไปไม่ถึง บางที่ท่านอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงงานนี้มีปัญหาอะไรเพราะไม่มีใครไปร้องเรียน”

“ข้อเรียกร้องในปีนี้ของกลุ่มย่านเราเป็นข้อเรียกร้องให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ฟรี ค่าครองชีพ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถ้าได้รับการแก้ไขไม่ใช่แค่คนในโรงงานที่ได้ประโยชน์” ธัญญา สายสิน ประธานสหภาพแรงงานผู้ปฏิบัติงานฝาจีบกล่าวถึงข้อเรียกร้องในปีนี้ พร้อมอธิบายว่าแท้จริงแล้วการแก้ไขปัญหาในโรงงานยังสามารถแก้ไขปัญหาสังคมในวงกว้างได้ด้วย เนื่องจากรายได้ของแรงงานคือรายได้ที่นำไปยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว

“ถ้าคุณแก้ปัญหาให้กับโรงงานดี แรงงานก็ส่งเงินกลับไปเลี้ยงครอบครัวต่อ หมายความว่าสังคมครอบครัว สังคมภายนอกก็จะดีขึ้นด้วย เราไม่ได้มาเรียกร้องเพื่อตัวเราเองเท่านั้น เรายังมีครอบครัว มีลูก มีคนที่เลี้ยงดูต่อ ถ้าสังคมโรงงานดีคนที่อยู่ต่างจังหวัดก็ดีด้วยไม่ต้องรอฟ้ารอฝนทำเกษตรกรรมอย่างเดียว” ประธานสหภาพแรงงานผู้ปฏิบัติงานฝาจีบกล่าว

นายสมพจน์ กวางแก้ว หัวหน้าสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี รับมอบหนังสือและข้อเรียกร้อง โดยรับปากว่าจะส่งต่อให้แก่รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน แต่ทั้งนี้ทางกระทรวงแรงงานเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจมีความพยายามจะขยายสิทธิแรงงานอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีแรงงานเองก็ต้องระวัง เนื่องจากปัจจุบันมีความเป็นไปได้สูงที่แรงงานจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี หากทำงานไม่คุ้มค่าก็อาจถูกนายจ้างแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ได้

ตลอดกระบวนการวันนี้มีการจับตาจากเจ้าหน้าที่ทหารในเครื่องแบบอย่างเคร่งครัด ตัวแทนสหภาพบางส่วนยืนยันว่าก่อนหน้านี้ได้แจ้งและขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดี