กรมอุทยานฯ มีมติให้ปิดอ่าวมาหยาอีก 2 ปี เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติและระบบนิเวศ พร้อมปรับระบบการจัดการท่องเที่ยวและติดตามสภาพสิ่งแวดล้อมทุก 3 เดือน เพื่อเป็นตัวกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เหมาะสมในแต่ละวัน
วันที่ 9 พ.ค.2562 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการปิดอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ระยะเวลา 2 ปี เพื่อรอให้สภาพระบบนิเวศ, ระบบจัดการดูแลท่องเที่ยวดีขึ้น ลดผลกระทบพร้อมจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวบนฝั่ง ไม่ให้เรือเข้าในอ่าวเหมือนสมัยก่อน ซึ่งการฟื้นฟูอ่าวมาหยาเป็นส่วนหนึ่งของพีพีโมเดล ทำงานในระดับกรม โดยเป็นการตัดสินใจปิดครั้งนี้ขึ้นอยู่กับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ โดยมีคำแนะนำของคณะที่ปรึกษาอุทยานทางทะเลประกอบการพิจารณา ปัจจุบันมีมติจะปิดต่อ 2 ปี โดยมีข้อมูลประกอบ ดังนี้
1. การศึกษาความสามารถในการรองรับเสร็จแล้ว มีตัวเลขพร้อม แต่ตัวเลขดังกล่าวคำนึงถึงการดูแลรักษาธรรมชาติเต็มระบบ
2. กรมอุทยานกำลังจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบป้องกันผลกระทบ เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ท่าเรือ บ้านพักเจ้าหน้าที่ ฯลฯ การจัดทำทั้งหมดจะเสร็จภายใน 1 ปีกว่าๆ (เผื่อเวลาตามระบบราชการ)
3. ในขณะเดียวกัน กรมอุทยานฯ กำลังจัดทำระบบ e-ticket และระบบติดตามเรือ ซึ่งถ้าสมบูรณ์ จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดูแลจัดการท่องเที่ยว
4. เมื่อระบบพร้อม อาจเปิดให้มีการทดลอง ในขณะเดียวกัน จะมีการประเมินการสภาพระบบนิเวศที่เกิดขึ้นจากการฟื้นฟู ทั้งแนวปะการัง ป่าชายหาด ฯลฯ
5. เมื่อการประเมินเสร็จ และผลเป็นตามคาดหวัง จะมีการตัดสินใจอีกครั้งในการเปิดให้ท่องเที่ยว
6. การเปิดให้ท่องเที่ยว ต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเคร่งครัด ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่อรอบ จำนวนเรือ ฯลฯ
7. ที่สำคัญ จะไม่เปิดให้เรือเข้าทางหน้าอ่าวอีกแล้ว เพราะฉะนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อแนวปะการังที่กำลังฟื้นฟู/ฝูงฉลามหูดำ ฯลฯ
8. ต้องมีการติดตามระบบนิเวศ รวมถึงผลกระทบอื่นๆ เช่น ปะการังฟอกขาว ฯลฯ ที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์ มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากและส่วนใหญ่มองว่าเห็นด้วยที่ปิดเพื่อฟื้นฟูสภาพระบบนิเวศให้ดีขึ้น
ขณะที่นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า มีมติจากกรมอุทยานฯ แล้วว่าจะเปิดอ่าวมาหยาและอ่าวโล๊ะซามะในอีก 2 ปี แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าก่อนจะเปิดคณะกรรมการจะเข้าไปตรวจสอบครั้งสุดท้ายอีกครั้ง ถึงความพร้อมของระบบนิเวศที่จะให้บริการกับนักท่องเที่ยว และจะต้องไม่เกิดความเสียหายอีก โดยมีการสร้างมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันความเสียหายของระบบนิเวศทั้งในน้ำและบนบก ภายหลังการเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวแล้วจะต้องมีการติดตามตรวจสอบสถานภาพของทรัพยากรทุกๆ 3 เดือน เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เหมาะสมในแต่ละวันหรือในแต่ละรอบของการเข้าชม เพื่อรักษาทรัพยากรที่มีให้คงอยู่
ทั้งนี้ หลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีมติเมื่อกลางปี 2561 ให้ปิดการท่องเที่ยวอ่าวมาหยากลางทะเลอันดามัน เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เนื่องจากพบว่า แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งนี้หนาแน่นไปด้วยเรือท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว ทำให้สภาพธรรมชาติเสื่อมโทรม ชายหาดทรุดตัว นอกจากนี้ยังพบสารเคมีบางชนิด เช่น ครีมกันแดดที่นักท่องเที่ยวใช้ทาตัวก่อนลงเล่นน้ำ กลับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปะการังฟอกขาวจนนำไปสู่การประกาศปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูสภาพของระบบนิเวศ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-30 กันยายน 2561 และต่อมามีการขยายเวลาปิดอ่าวต่อเนื่องมาอีก 1 เดือน กระทั่งผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเรียกร้องให้มีการเปิดอ่าวอีกครั้ง ในเดือน พ.ย.ปีเดียวกัน แต่เมื่อ ต.ค.2561 กรมอุทยานฯ กลับมีมติปิดอ่าวมาหยาอย่างไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟื้นฟูปะการังที่เสื่อมโทรมอย่างหนัก และกำหนดการบริหารจัดการพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพกว่านี้ก่อน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2736732826341903&set=a.235339669814577&type=3