ประเด็นคือ – เครื่องบิน พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงจอดสุราษฎร์ธานีหลังได้รับแจ้งจากสนามบิน จ.นครศรีธรรมราช มีพายุฝนและลมกรรโชกแรงไม่สามารถลงได้ โดยต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้วยรถยนต์แทน
วันนี้ ( 3 พ.ย.60 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. เครื่องบินกองทัพบกที่นำคณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปปฎิบัติราชการ และตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ. นครศรีธรรมราช แต่ขณะเดินทางมาเครื่องบินได้เจอกับสภาพอากาศฝนตกหนัก และได้รับรายงานว่าที่สนามบิน จ.นครศรีธรรมราช มีพายุฝนตกหนักและมีลมกรรโชกแรงเป็นอันตรายต่อเครื่องบินของคณะนายกรัฐมนตรี ทางนักบินจึงได้ตัดสินใจนำเครื่องลงจอดที่สนามบินสุราษฎร์ธานี ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกและมีลมกรรโชกแรงแต่สภาพอากาศยังไม่ปิด และเข้ามาพักที่ห้องรับรอง บน.7 กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี
โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี และข้าราชการระดับสูงใน จ.สุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ให้ทราบในเบื้องต้นว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกที่ อำเภอเกาะสมุยจำนวน 210 มม. มีน้ำท่วมขังผิวจราจรถนนรอบเกาะบางช่วง น้ำสูงประมาณ 30 ซม. อ.ท่าชนะ 190 มม. อ.ไชยา 110 มม. สุราษฎร์ธานี บ้านปากฮาย อ.กาญจนดิษฐ์ 62 มม. สถานการณ์โดยรวมยังถือว่าปกติ แต่ได้มีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ทั้งบุคลากรและเครื่องจักรกล
หลังจากใช้เวลาประมาณ 30 นาที คณะนายกรัฐมนตรีได้เดินทางต่อโดยรถยนต์ โดย นายกำแหง สายวิภู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีได้รายงานถึงสถานการณ์ช่วงฝนตกหนักว่า ในแต่ละวันจะมีเที่ยวบินขึ้นลงประมาณวันละ 42 เที่ยว และเพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลง ซึ่งนายกได้สั่งกำชับในเรื่องการท่องเที่ยวทางทะเล ให้มีความระวังก่อนจะเดินไปขึ้นรถเดินทางไป จ.นครศรีธรรมราช