แพทย์ใหญ่ รพ.ตร. สั่งรวบรวมปม “หมอแอร์” โพสต์ชวนคลอดลูกที่สหรัฐฯ ยังไม่ตั้ง กก.สอบ

ภาพจากเฟซบุ๊ก: หมอแอร์

นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตร. สั่งรวบรวมข้อมูล ปมดราม่า “หมอแอร์” โพสต์เชิญชวนคลอดลูกต่างประเทศ ย้ำยังไม่ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ กรณีเฟซบุ๊กเพจ หมอแอร์ ของ พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล แพทย์ประจำกลุ่มจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลตำรวจ อดีตรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์ภาพขณะตั้งครรภ์ โดยบนท้องเขียนข้อความว่า “แม่ครับผมเกิดที่ไมอามีได้ไหมครับ” พร้อมเชิญชวนว่าที่คุณแม่ชาวไทย มาปรึกษาการคลอดลูกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่ออนาคตและโอกาสที่ดีของลูก ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในแง่มุมต่างๆ

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.20 น. วันนี้ (17 เม.ย. 62) พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานและเห็นข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอแล้ว เบื้องต้นได้สั่งการให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลตำรวจ รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้เพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดในประเด็นไหนอย่างไร แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องรอรวบรวมข้อมูลก่อน ทุกอย่างต้องทำอย่างรอบคอบ หากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้วถ้ามีมูลความผิดก็จะดำเนินการไปตามระเบียบขั้นตอน

พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ

ส่วนประเด็นที่สังคมโซเชียลตั้งข้อสงสัยว่ามีการลาถูกต้องตามระเบียบหรือไม่นั้น พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า โดยปกติการลาคลอดไม่จำเป็นต้องลาล่วงหน้า คลอดก่อนค่อยทำเรื่องลาย้อนหลังก็ได้ ระเบียบเป็นแบบนี้ โดยส่วนตัวก็ไม่ได้คุยโดยตรงกับ พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ยอมรับว่าการโพสต์ การไปคลอดลูกต่างประเทศ เป็นสิทธิ์สามารถทำได้ เป็นเรื่องของบุคคล ไม่เกี่ยวข้อกับองค์กร

ด้าน พลอากาศตรีนายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา บอกว่า เท่าที่ทราบเป็นการแนะนำส่วนตัว ส่วนจะเข้าข่ายเป็นกรณีจริยธรรมทางการแพทย์หรือไม่ ขอเวลาตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงของเรื่องดังกล่าวก่อน

ขณะที่รัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา บัญญัติว่าประชาชนทุกคนที่เกิด หรือแปลงสัญชาติในสหรัฐฯ และอยู่ภายใต้ขอบเขตทางกฎหมายของสหรัฐฯ ถือเป็นพลเมืองของสหรัฐฯ โดยมีสิทธิ์ถือหนังสือเดินทางชาวอเมริกันที่ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้

นอกจากนี้ พลเมืองอเมริกันยังสามารถเดินทางเข้า-ออกสหรัฐฯ ได้ทุกเวลาโดยไม่มีเงื่อนไข หรือต้องขออนุญาตเดินทางกลับเข้าประเทศ แม้ว่าบุคคลดังกล่าวจะกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิดของตัวเอง แต่ก็สามารถเดินทางกลับไปสหรัฐฯ เพื่อใช้สิทธิ์ในฐานะพลเมืองได้ เช่น เรียนฟรีในระดับประถมและมัธยมศึกษา มีสิทธิ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือและทุนการศึกษาจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของสหรัฐฯ

ขณะเดียวกันยังสามารถยื่นคำขอให้คนในครอบครัว คู่สมรส บิดา มารดาและบุตรที่ยังไม่สมรสที่มีอายุน้อยกว่า 21 ปี ให้ย้ายถิ่นฐานเข้าไปตั้งรกรากในสหรัฐฯ โดยจะได้รับสิทธิ์ทันทีที่ดำเนินการเรื่องเอกสารและการสัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งศูนย์ศึกษาเรื่องการอพยพของสหรัฐฯ ระบุว่า ในแต่ละปีมีหญิงต่างชาติประมาณ 36,000 คน เดินทางมาคลอดลูกในสหรัฐฯ เพื่อหวังให้ลูกได้เป็นพลเมือง ส่วนใหญ่เดินทางมาจากจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ไนจีเรีย ตุรกี รัสเซีย บราซิลและเม็กซิโก

ภาพจากเฟซบุ๊ก: หมอแอร์

สำหรับ โครงการ Have my baby in Miami ซึ่งเป็นโครงการที่อำนวยความสะดวกให้คนจากทั่วโลก สามารถมาคลอดที่สหรัฐอเมริกาได้ และเด็กที่เกิดบนแผ่นดินอเมริกา ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นคนสัญชาติใดก็ตาม จะได้รับสัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ ทางโครงการจะให้บริการแบบครบวงจร เช่น การให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายในเรื่องต่าง ๆ การยื่นขอเอกสาร (คาดว่าเป็นสูติบัตร) ภายหลังจากที่เด็กเกิด การซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการคลอดบุตร และบ้านที่จะใช้เป็นที่พักฟื้นของแม่และเด็ก

ส่วนของการคลอดนั้น คุณแม่สามารถคลอดได้ทั้งแบบธรรมชาติ ผ่าคลอด หรือการคลอดที่มีความซับซ้อน ซึ่งคุณแม่สามารถปรึกษากับแพทย์ได้ว่าต้องการที่จะคลอดแบบใด โดยคุณแม่สามารถเดินทางมาที่อเมริกาได้ก่อนที่อายุครรภ์จะครบ 32 สัปดาห์ ในส่วนของค่าใช้จ่ายนั้น ในเบื้องต้นเฉพาะค่ากุมารแพทย์และสูตินรีแพทย์ ประมาณ 170,000 บาท ไม่รวมค่าโรงพยาบาลที่จะต้องจ่ายให้โรงพยาบาลโดยตรง รวมถึงค่าพยาธิวิทยา ค่าวางยาสลบ ค่าผ่าตัด และอื่น ๆ และไม่รวมค่าให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ค่าบ้าน ค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งคาดว่าเมื่อรวมค่าใช้จ่ายแล้ว อาจสูงถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว