“วางแผนรับมือสงครามการค้า” นโยบายแรกที่ภาคเอกชนต้องการรัฐบาลใหม่ทำ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนส่งผลกระทบผลต่อเศรษฐกิจไทย เห็นได้ชัดจากส่งออกของไทย 4 เดือน ปรับตัวลดลงไปหลายรายการ ซึ่งเรื่องนี้ภาคเอกชนได้หารือร่วมกันและเตรียมเสนอให้รัฐบาลใหม่เร่งวางแผนรับมือปัญหานี้ให้ได้เร็วที่สุด

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาภาคเอกชนได้หารือร่วมกันต้องเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะ เมื่อเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้วต้องเดินหน้าคือ เจรจา FTA กับประเทศสหภาพยุโรป ซึ่งผลกระทบจากสงครามการค้าจีนและสหรัฐ ที่สะท้อนในตัวเลขส่งออกอิเลกทรอกนิกส์ และชิ้นส่วน ช่วง 4 เดือนแรกร่วงลงทุกรายการ โดยเฉพาะฮาร์ดดิสไดร์ฟติดลบมากที่สุด ไม่เพียงแค่อิเลกทรอนิสก์ แต่อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน โดยยอดส่งออกรถยนต์เดือนเมษายนที่ผ่านมาต่ำสุดรอบ 2 ปี จากกำลังซื้อจากต่างประเทศหดตัว แม้ว่ายอดการผลิตรถยนต์ทั้งปีจะโตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ที่ 2 ล้าน 2 แสนคัน

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานคณะทำงานศึกษาผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐและจีน (ส.อ.ท.) ยอมรับว่า สินค้าทั้ง 2 กลุ่ม เป็นสินค้าอันดับต้นๆ ที่ ไทยส่งออกในรูปวัตถุดิบให้จีนนำไปผลิตต่อเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อส่งออกไปสหรัฐฯ มีสัดส่วนร้อยละ 23 ของการส่งออกทั้งหมด เมื่อจีนส่งออกไม่ได้ ย่อมเกิดปัญหากับไทยโดยเฉพาะอิเลกทรอนิกส์ที่มีความเสี่ยงจะติดลบตลอดทั้งปี

โจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลใหม่จะต้องเร่งทำงาน คือ การตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ วางแผนรับมือปัญหา ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ไม่ใช่แค่หาตลาดใหม่ แต่ต้องเฝ้าระวังสินค้าจากจีนแอบอ้างถิ่นกำเนิดเป็นสินค้าไทยส่งออกไปสหรัฐฯ ป้องกันไม่ให้ไทยถูกจับตาจากสหรัฐฯ รวมถึงเข้ามาสร้างฐานการผลิต ยกระดับจากบริษัทรับจ้างผลิตชิ้นส่วนสู่การผลิตสินค้าขั้นกลางที่ใช้นวัตกรรม มีแบรนด์เป็นของตนเอง

ด้าน รศ.อัทธ์ พิศาลวานิช ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า เมื่อไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะต้องเร่งเจรจาการค้า FTA เปิดตลาดส่งออกใหม่ๆ เช่น สหภาพยุโรป ที่ขณะนี้เวียดนาม เปิดตลาดกับยุโรปไปแล้ว อาจส่งผลกระทบให้สินค้าไทยถูกแย่งตลาดไป

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ระบุว่า วันนี้ (27 พ.ค.62) จะเชิญอุตสาหกรรม 20 กลุ่มที่ส่งออกสินค้า เช่น ยานยนต์ ชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร มาหารือผลกระทบสงครามการค้า ซึ่งยอมรับว่า กระทบต่อการส่งออกของไทยมาก พร้อมทั้งร่วมกันจัดทำแผนรับมือผลกระทบของกลุ่มต่างๆ

ส่วนวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะหารือกับภาคเอกชน 2 สมาคม เพื่อปรับกลยุทธ์การส่งออกสินค้าใหม่ และจะนำข้อสรุปเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศภายในเดือนมิถุนายน วางยุทธศาสตร์การค้าระยะยาวระหว่างรัฐและเอกชน อีกประเด็นเอกชนห่วงคือ สหรัฐฯอาจเพิ่มไทยในบัญชีประเทศแทรกแซงค่าเงิน ซึ่งต้องการให้ภาครัฐทำความเข้าใจกับสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นผู้ส่งออกจะได้รับผลกระทบมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทำความเข้าใจ สงครามการค้า ระหว่างสหรัฐฯ-จีน