SHARE

คัดลอกแล้ว

มงคลกิตติ์ ลั่น  หากภายใน 5 วันคดีซ้อมจ่านิวไม่มีความคืบ ตนก็จะร้องเรียนต่อประธานรัฐสภา ยัน เลือกบิ๊กตู่เป็นนายกฯ เนื่องจากมีประสบการณ์ในการทำงาน และที่ผ่านมาสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยได้เป็นอย่างดี จนมีผลงานเห็นเป็นรูปธรรม 

จากกรณี นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แกนนำกลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิล ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนก่อเหตุใช้ไม้รุมตีจนได้รับบาดเจ็บ บริเวณป้ายรถประจำทางใกล้ห้างเดอะสตรีทรัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. หลังเจ้าตัวเดินทางไปร่วมทำกิจกรรมตั้งโต๊ะเปิดรับรายชื่อยื่นเรียกร้องให้ ส.ว. งดออกเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 มิ.ย. 62 ที่สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 2 ปาก ที่เป็นเด็กรับรถรถในแวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นทั้ง 2 คนระบุว่าไม่เห็นเหตุการณ์ ยังเหลือนายสิรวิชญ์ หรือ “จ่านิว” ที่ต้องรอมาให้ปากคำอีกครั้ง ในช่วง 17.00 น. เนื่องจากในวันเกิดเหตุนายสิรวิชญ์ หรือ “จ่านิว” ได้ให้ถ้อยคำไว้เพียงถูกคนร้าย 5-6 คน รุมทำร้ายบริเวณป้ายรถเมล์รัชดาภิเษก ซอย 7 หลังจากส่งเพื่อนที่เดอะสตรีท

ซึ่งเมื่อตรวจภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุพบว่าถูกต้นไม้บัง ทำให้มองไม่เห็น และจากการตรวจสอบกล้องใกล้จุดเกิดเหตุพบกลุ่มคนจำนวน 4-5 คน มีการสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อหาผู้ต้องสงสัยแล้ว ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานซักระยะ เพื่อให้เกิดความัดเจน ซึ่งในรายละเอียดทั้งหมดคงต้องรอสอบปากคำจ่านิว ว่าเดินมาจากไหนไปไหน คนที่ทำร้ายมีกี่คน เพื่อจะได้ดูเส้นทาง แล้วนำมาประกอบกับสิ่งที่ทางเรามีอยู่ เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ทำร้ายนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมการเมืองหรือไม่ ส่วนการแจ้งข้อหาคนร้ายดังกล่าว ต้องรอผลตรวจร่างกายจ่านิว จากแพทย์ก่อน จากนั้นจึงนำมาพิจารณาแจ้งข้อหาความผิดต่อไป

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ในฐานะ สส.ของรัฐบาล พร้อมกล่าวว่า ตนมาติดตามคดีในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ที่เห็นว่าตำรวจควรเร่งทำคดี และให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกทำร้ายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวที่สนับสนุน หรือต่อต้านการทำงานของรัฐบาล

ซึ่งหากภายใน 5 วันคดียังไม่มีความคืบหน้า ตนก็จะนำเรื่องนี้เรียนต่อประธานรัฐสภาให้รับทราบ ซึ่งก็อาจจะทำให้ ผบ.ตร. ต้องมาชี้แจงรายละเอียดคดีนี้ในที่ประชุมสภาด้วย ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ตนจะมาเป็น ส.ส. ตัวเองก็เคยเคลื่อนไหวคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ และเคยถูกบุคคลที่ไม่รู้จักมาติดตามเหมือนกัน หลังจากที่มาเป็น ส.ส. ก็ถูกคุกคามรวมไปถึงครอบครัว

ซึ่งกำลังศึกษาข้อบังคับอยู่ว่าสามารถใช้เอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรขอกำลังคุ้มกันได้หรือไม่ แต่หากตัวเองจะเดินทางไปในภารกิจพิเศษในสถานที่ต่างๆ ก็จะขอกำลังคุ้มกันความปลอดภัยไปเป็นกรณีอยู่แล้ว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้การประชุมร่วมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร กับสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเลือกนากยกรัฐมนตรี ในส่วนตัวจะเลือก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ เนื่องจากเห็นว่ามีประสบการณ์ในการทำงาน และเห็นว่าที่ผ่านมาสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยได้เป็นอย่างดีจนมีผลงานเห็นเป็นรูปธรรม ทำให้หนี้สาธารณะดีขึ้นกว่าสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นอกจากนั้นยังเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย จะมาสนับสนุนร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ในการเปิดสวิตซ์ประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ และให้พรรคอื่นๆ ที่อยากร่วมทำงานกับรัฐบาลให้มาสนับสนุน

ตนอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนนาคตใหม่ ที่จะได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาร่วมเสนอแนวคิดในสภาก่อนการลงคะแนน เพื่อให้ได้เห็นวิสัยทัศน์ในการทำงาน และบอกถึง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่ต้องกลัวเรื่องการวิจารณ์ถึงคุณสมบัติตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากองค์กรอิสระมีมติแล้วว่าไม่ขัดคุณสมบัติ และเห็นว่านายธนาธร ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ แต่ก็อยากเห็นนายธนาธรมาทำงานร่วมกับรัฐบาล เพราะเห็นว่าก็ยังมีความสามารถ โดยอาจจะมาอยู่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก่อน และหากพล.อ.ประยุทธ์ เหนื่อย ก็อาจจะให้มาบริหารงานแทนได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า