พปชร. ตั้ง “สนธิรัตน์” เป็นหัวหน้าประสานงานจัดทำนโยบายรัฐบาล ให้ทุกพรรคส่งคนมาร่วมวางแผนเป็นทีมเดียวกัน ยังไม่สรุปใครนั่งกระทรวงใด ย้ำ พล.อ.ประยุทธ์ มีสิทธิ์ที่จะดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีเป็นคนสุดท้าย
วันที่ 7 มิ.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค
นายอุตตม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพูดคุยหารือตั้งทีมประสานงานเพื่อหารือกับพรรคร่วมนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังได้นายกรัฐมนตรี โดยพรรคพลังประชารัฐมีมติเห็นชอบให้นายสนธิรัตน์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานประสานงานกับพรรคร่วมเพื่อจัดทำนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ โดยจะนำนโยบายของแต่ละพรรคมาพิจารณา เนื่องจากบางนโยบายมีความคล้ายคลึงกันเพื่อให้เกิดความเหมาะสม จากนั้นจึงวางตัวบุคคลให้เหมาะสมกับตำแหน่งของแต่ละกระทรวง ขอย้ำว่าทุกคนเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วต้องหารือร่วมกัน เพื่อช่วยกันเดินหน้าประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายอุตตม ยังกล่าวถึงการวางตัวคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่าขณะนี้ยังไม่มีการสรุปว่าใครจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใดบ้าง แต่ยืนยันว่าจะพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ตำแหน่งต่างๆ ลงตัวที่สุดและเสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่ไม่ขอตอบว่าจะได้รัฐบาลใหม่ก่อนการประชุมอาเซียนหรือไม่ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังได้รับการโปรดเกล้าฯ มีสิทธิ์ที่จะดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีเป็นคนสุดท้าย ทั้งนี้เมื่อนายกรัฐมนตรีหารือร่วมกันกับพรรคร่วมทั้งหมดแล้ว จะไม่มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อคณะรัฐมนตรีกลางคันแน่นอน
ส่วนเรื่องนโยบายกัญชาเสรีนั้น ต้องพิจารณาว่าจะสามารถขับเคลื่อนได้มากน้อยแค่ไหน พร้อมยืนยันว่ากรณีที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยงดออกเสียงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นจะไม่มีผลต่อการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยแน่นอน ขณะเดียวกันเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายอุตตมยอมรับว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ และมีความซับซ้อนจึงต้องใช้เวลา ซึ่งยังไม่กำหนดประเด็นที่จะแก้ไข โดยต้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติ พิจารณาร่วมกันไม่ใช่แค่พรรคการเมืองเท่านั้น
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า คณะทำงานจะร่วมกันโดยไม่แยกเป็นพรรค โดยจะนำนโยบายแต่ละพรรคทั้งที่คล้ายคลึงและแตกต่างกันมาจัดทำเป็นนโยบายรัฐบาลไว้ล่วงหน้า ถ้าดูจากกรอบเวลาแล้วเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่พร้อมจะแถลงนโยบายต่อสภา ยืนยันว่าการพูดคุยตั้งรัฐบาลได้พูดคุยไปเบื้องต้นบ้างแล้วไม่ใช่ว่ายังตกลงไม่ได้ไม่มีความคืบหน้าตามที่มีข่าวแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสมของตัวบุคคลและทำให้เกิดความสมดุลทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเข้มแข็งมากที่สุด