SHARE

คัดลอกแล้ว

กสศ. ร่วมมือกับ 20 จังหวัด สร้างทีมพัฒนาฐานข้อมูล เด็กปฐมวัยและเด็กนอกระบบการศึกษา เพื่อเร่งช่วยเหลือสร้างโอกาสการศึกษา หลังพบข้อมูลว่าเด็กไทยวัยเรียนอยู่นอกระบบการศึกษามากกว่า 5 แสนคน ตั้งเป้าปีแรกช่วยเหลือไม่ต่ำกว่า 35,000 คน 

วันที่ 10 มิ.ย.62 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาโครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา มีตัวแทนจาก 20 จังหวัด ต้นแบบเข้าร่วม

นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการ กสศ.กล่าวว่า ตัวแทนจาก 20 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง น่าน แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก ขอนแก่น มหาสารคาม สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครราชสีมา กาญจนบุรี นครนายก ระยอง สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา และสงขลา ได้ร่วมมือแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยมีแนวทางว่าให้แต่ละจังหวัดเป็นเจ้าภาพ ใช้บริบทของแต่ละพื้นที่เป็นตัวตั้ง มุ่งไปที่ 2 กลุ่มเป้าหมายได้แก่ เด็กปฐมวัยและเด็กนอกระบบการศึกษา
ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลว่า เด็กก่อนวัยเรียน อายุ 3 – 6 ปี ไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษา ราว 250,000 คน หรือร้อยละ 10 เฉลี่ยจังหวัดละ 3,200 คน ขณะที่เด็กวัยเรียน อายุ 3 -17 ปี มีจำนวน 592,396 คน ที่ยังอยู่นอกระบบการศึกษา

โดยการทำงานจะ 3 ด้าน สำคัญ คือ
1. สร้างกลไกบูรณาการระหว่างหน่วยงานหลักและภาคประชาสังคมในพื้นที่
2. พัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาผ่านการสำรวจค้นหากลุ่มเป้าหมายจริง ทำให้การช่วยเหลือดูแลกลุ่มเป้าหมายมีความน่าเชื่อถือและแม่นยำ
3. การสร้างตัวแบบการช่วยเหลือเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาตามบริบทของพื้นที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็กปฐมวัยและเด็กนอกระบบ

“ที่ผ่านมาเรารู้เพียงจำนวนของเด็กกลุ่มนี้ จากการนำฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยหักลบกับฐานข้อมูลนักเรียนในทุกสังกัด แต่เรายังไม่ทราบว่าเด็กอยู่ที่ไหน รูรั่วของระบบข้อมูลอีกจุดอยู่ในช่วงที่เด็กอายุ 24 เดือนขึ้นไป ซึ่งจะไม่อยู่ในฐานข้อมูลเด็กของกระทรวงสาธารณสุข และก่อนที่จะปรากฎข้อมูลเด็กอีกครั้งเมื่อเข้าศึกษาในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของท้องถิ่น จากนี้ทั้ง 20 จังหวัดที่ร่วมโครงการจะพัฒนาให้เกิดเจ้าภาพร่วม ค้นหา ติดตามเด็กอายุตั้งแต่ 2-21 ปี ที่หลุดจากระบบการศึกษา โครงการยังให้ความสำคัญกับการจัดทำฐานข้อมูลกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเพื่อให้ทราบว่าขณะนี้เด็กแต่ละคนที่ถูกค้นพบ ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วหรือไม่ เป็นเครื่องมือให้หน่วยงานต่างๆ ได้ทำงานร่วมกัน ซึ่ง กสศ.จะสนับสนุนงบประมาณ อย่างต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แต่ละจังหวัด สามารถขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายในปีแรกคือสามารถช่วยเหลือเด็กปฐมวัยและเด็กนอกระบบการศึกษาจำนวน 35,000 คน” นายพัฒนะพงษ์ กล่าว

ขณะที่ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวว่า จากข้อมูลของจังหวัดนครนายก พบว่า เด็กร้อยละ 30 เป็นเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หมายความว่า เด็ก 24,000 คน มีจำนวน 8,800 คน ที่มีปัญหา เช่น พ่อแม่เสียชีวิต ครอบครัวหย่าร้าง มีฐานะยากจน หรือถูกคุกคามทางเพศ เรายังพบปัญหาเด็กเข้าสู่วงจรยาเสพติด เด็กเดินยาจาก 9 ขวบ เหลือเพียง 6 ขวบ และคุณแม่วัยใสที่อายุน้อยสุดคือ 13 ปี โครงการนี้ถือเป็นการทำงานเชิงรุกของจังหวัด ต้องปรับโครงสร้างให้เกิดกลไกร่วมมือในการขจัดปัญหา และพัฒนาศูนย์ข้อมูลชุดเดียวที่ทุกหน่วยงานจะมาใช้ร่วมกันเพื่อเข้าถึง ช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ให้ได้ทันท่วงทีและตรงความต้องการ การพัฒนาจังหวัดให้ก้าวไปข้างหน้าได้ ต้องมีรากฐานการพัฒนาคนที่เข้มแข็ง เราจึงไม่ควรทิ้งเด็กคนไหนไว้ข้างหลังแม้แต่คนเดียว

ด้านนายไกรศักดิ์ วรทัต ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และอดีตปลัด อบจ.สุรินทร์ กล่าวว่า ข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ ต้องพัฒนาตลอดเวลา เนื่องจากมีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาทุกวัน แม้สถานศึกษาจะจำหน่ายชื่อเด็กออกได้เมื่ออายุ 15 ปี แต่เด็กหลุดออกมาก่อนแล้วในความเป็นจริง เด็กออกจากโรงเรียนมากที่สุดในช่วง ม.2 จากประสบการณ์พบว่า กลไกในพื้นที่จะเข้าถึงและติดตาม ค้นหาเด็กได้ดีที่สุด โดยเฉพาะความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านช่วยเก็บข้อมูลและประสานกับ กศน. ศูนย์ฝึกอาชีพเพื่อส่งเด็กกลับเข้ารับการศึกษา พัฒนาอาชีพตอบความต้องการของเด็กให้มากที่สุดต่อไป เมื่อสามารถค้นพบเด็กและเข้าช่วยเหลือตั้งแต่ระดับตำบลปัญหาภาพรวมในระดับจังหวัดจึงยิ่งลดลง พร้อมขยายภาคีความร่วมกับกับเอกชน ภาคประชาสังคม หน่วยงานรัฐทุกระดับ จะทำให้เกิดกลไกการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า