ชาวบ้านเสิงสาง ถูกหมีป่าทำร้าย จนเป็นแผลเหวอะเต็มตัว ขณะฉีดยาฆ่าหญ้ากลางไร่มันสำปะหลัง นายก อบต.เผยเป็นครั้งแรกที่สัตว์ป่าเข้ามาร้ายชาวบ้านในพื้นที่ทำกิน
วันที่ 11 มิ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชนดิรก นินทราช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสระตะเคียน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา นำเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 4 ลำปลายมาศ ลงพื้นที่สำรวจจุดที่เกิดเหตุหมีป่าทำร้ายประชาชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เกิดเหตุบริเวณไร่มันสำปะหลังท้ายหมู่บ้านสันติสุข หมู่ที่ 10 ต.สระตะเคียน ซึ่งอยู่ห่างจากแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลานกว่า 1 กิโลเมตร ภายหลังทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายดนัย อายุ 31 ปี ถูกหมีป่าตะปบเข้าบริเวณศีรษะและลำตัวเป็นบาดแผลฉกรรจ์หลายจุด ตั้งแต่ศีรษะ หัวไหล่ และลำตัว ขณะนี้ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช ล่าสุดทราบว่าอาการปลอดภัยแล้ว
ซึ่งนายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและจะได้ช่วยค่ารักษาพยาบาลเพื่อเป็นการปลอบขวัญ รวมถึงสั่งการให้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าตรวจสอบพื้นที่ และผลักดันหมีป่าตัวดังกล่าวให้กลับสู่ป่าต่อไป
จากการสอบถามนายไพร สุกิจ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์กับผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า นายไพรและนายดนัยได้รับว่าจ้างให้ไปฉีดยาฆ่าหญ้าในไร่มันสำปะหลังของนายจ้างเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย. 62) โดยได้ออกมาทำงานกันตั้งแต่เช้าตรู่ กระทั่งเวลาประมาณ 09.30 น. ตนเองได้ยินเสียงนายดนัย ซึ่งฉีดยาอยู่ทางด้านหลังห่างกันประมาณ 100 เมตร ร้องเสียงหลง จึงหันกลับไปดูแล้วก็พบกับหมีป่าตัวใหญ่น้ำหนักไม่น้อยกว่า 100 กิโลกรัม กำลังค่อมร่างของนายดนัย พร้อมกับทำร้ายอย่างน่ากลัว จึงตะโกนร้องเรียกให้เกษตรกรที่อยู่ไร่ข้างเคียงเข้ามาช่วยและตะโกนโห่ไล่หมีตัวดังกล่าว จนในที่สุดหมีก็วิ่งหลบหนีเข้าไร่มันสำปะหลังที่อยู่ข้างเคียงไปในที่สุด แต่สภาพของนายดนัยนั้นมีเลือดท่วมตัวและมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ตนเองรีบโทรศัพท์ให้ญาติมารับตัวไปทำการรักษาเป็นการด่วน
นายชนดิรก นินทราช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสระตะเคียน กล่าวว่า เหตุการณ์สัตว์ป่าออกมาหากินนอกเขตป่าและทำร้ายชาวบ้านนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ก็เคยมีพบเจอบ้างเป็นบางครั้งส่วนใหญ่จะถูกทำร้ายในขณะที่บุกเข้าป่าไป แต่กรณีที่เกิดเหตุการณ์ทำร้ายชาวบ้านในพื้นที่ทำกินที่อยู่ห่างจากอุทยานนั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะส่วนใหญ่จะมีการเฝ้าระวังร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในชุมชนเอง ซึ่งหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ขอองค์การบริหารส่วนตำบล ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ออกค้นหาและผลักดันหมีตัวดังกล่าวกลับเข้าป่าโดยเร็วที่สุด