เข้าใจผิดคิดว่าถูกแกล้งเอารั้วเหล็กมากั้นงานศพ ทั้งที่ฝ่ายญาติเป็นผู้ขอไว้เอง หนุ่มวัย 43 ปี ชกป้าหัวหน้าคนงานวัย 64 ปี ต่อหน้าพระจนล้มคว่ำกระทบประสาทตา ส่วนแขนที่หักจังหวะล้มยันพื้นผ่าตัดดามเหล็กแล้ว คาดต้องทำกายภาพไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
วันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ดาริน วรุณทรัพย์ อายุ 42 ปี บุตรสาวของหญิงชราวัย 64 ปี ที่ถูกชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่วัย 43 ปี ทำร้ายร่างกาย ด้วยการชกหน้าจนล้มลงกับพื้น ใบหน้าบวมปูดเขียวช้ำ และกระดูกข้อมือหักขณะล้มลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 มิ.ย.เวลาประมาณ 17.30 น. ในขณะที่มารดาของตนเองซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานและแม่ครัวที่คอยดูแลคนงานอยู่ภายในวัด กำลังเดินสั่งงานคนงานที่คอยดูแลความเรียบร้อยตามจุดพื้นที่รับผิดชอบของวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฏิ์ หรือวัดเมือง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
ชายคนดังกล่าว เดินตรงเข้ามาชกต่อยไปที่ใบหน้าด้านขวาของแม่ตนอย่างเต็มแรง จนถึงกับทำให้ร่างกายทรุดล้มลงฟาดพื้นทั้งยืน ทั้งที่มารดาของตนเองนั้นเป็นเพียงหญิงชราตัวเล็กๆ เท่านั้น โดยที่ชายคนดังกล่าวเป็นบุคคลที่ไม่เคยรู้จักหรือพุดคุยกันมาก่อน
ต่อมาทราบว่า ผู้ก่อเหตุนั้นเป็นญาติห่างๆ ของผู้เสียชีวิตที่เข้ามาจัดงานศพอยู่ภายในวัด และได้แสดงความไม่พอใจที่คนงานของทางวัด นำเอาแผงเหล็กมาปิดกั้นกันพื้นที่บริเวณโดมทางเข้าสู่ศาลาสวดพระอภิธรรมศพไว้ ทั้งที่ญาติของฝ่ายเจ้าภาพเองได้ร้องขอให้ทางวัดช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ทางเจ้าภาพ เนื่องจากผู้เสียชีวิตนั้นเคยเป็นอาจารย์ที่สอนอยู่ภายในโรงเรียนมัธยมชื่อดังประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง และมีลูกศิษย์เดินทางเข้ามาร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพเป็นจำนวนมาก ทางวัดจึงได้นำเอาแผงเหล็กดังกล่าวมาช่วยกั้นกันพื้นที่เอาไว้ เพื่อไม่ให้รถตู้ที่มาจอดรถคอยรับส่งเด็กนักเรียนจากโรงเรียนภายในบริเวณดังกล่าวเข้ามาจอดขวาง
แต่ทางผู้ก่อเหตุเข้าใจผิดว่าทางวัดนั้นเอาแผงเหล็กมาปิดกั้นขวางทางเข้าออกงานศพ และไม่พอใจมารดาตนที่พูดสั่งงานคนงานไม่เข้าหู จึงเข้าไปรื้อแผงเหล็กออกจากบริเวณด้านหน้าโดมทางเข้าศาลาสวดศพออก ก่อนที่จะนำไปโยนทิ้งไว้ยังบริเวณริมถนนฝั่งตรงข้ามตัวอาคารศาลาโดมดังกล่าว และแสดงความไม่พอใจ ก่อนตรงเข้ามาก่อเหตุทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้านนางนงคราญ จงรักษ์ อายุ 64 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ถึงขณะนี้ยังไม่ทราบเลยว่า เขาทำร้ายเราเพราะอะไรหรือทำไปเพื่ออะไรเพราะไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน ส่วนบาดแผลที่บริเวณแก้มและดวงตาข้างขวาที่ปูดบวมจนปิดนั้น ขณะนี้เริ่มดีขึ้นแล้วแต่ยังมีน้ำตาไหลออกมาในขณะพูดคุยอยู่ตลอด และคุณหมอผู้ทำการรักษายังคงเป็นห่วงเรื่องของประสาทตาและท่อน้ำตาที่ฉีกว่าจะกระทบต่อด้านการมองเห็นหรือไม่
ขณะที่แก้มซ้ายที่ล้มลงกระแทกพื้นขณะนี้เริ่มยุบลงมากแล้ว หลังจากที่ทางแพทย์ได้ให้ญาติช่วยประคบบาดแผลรอยฟกช้ำอยู่ตลอดอย่างต่อเนื่อง ส่วนข้อมือซ้ายที่หักนั้นยังมีอาการปวดอยู่ แต่ได้รับการผ่าตัดใส่เหล็กและเข้าเฝือกไว้แล้ว โดยแพทย์บอกว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะเปิดเฝือกออกเพื่อตัดไหม จากนั้นจึงจะใส่เฝือกใหม่จนกว่ากระดูกจะติดกันดี โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนจึงจะทำกายภาพบำบัดได้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะใช้งานได้ดีเป็นปกติหรือไม่ เนื่องจากมีอายุมากแล้ว นางนงคราญ กล่าว
สำหรับผู้ก่อเหตุ คือ นายสมภพ แสงดีจริง อายุ 43 ปี ต่อมาได้ทราบความจริงและได้สำนึกผิดจึงได้เดินทางเข้าไปพบ พ.ต.ต.กฤชฐา ประทุมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และได้พยายามที่จะขอโทษต่อทางผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ทางญาติยังไม่สามารถทำใจได้ โดยจะขอเวลาดูถึงความสำนึกผิดของผู้ก่อเหตุว่าได้มีความสำนึกต่อการกระทำที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วจึงค่อยเข้ามาพูดคุยกันในภายหลัง โดยในขณะนี้จะขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกระบวนการกฎหมายไปก่อน