รถแดงเชียงใหม่ ขู่ระดม 2,465 คันประท้วงหาก Grab ถูกกฎหมาย

จากกรณีที่มีข่าวว่ากรมการขนส่งทางบก เตรียมศึกษาข้อกฎหมายและทำให้แอพพลิเคชั่นบริการขนส่งแกร็บ (Grab ) เป็นบริการถูกกฎหมาย โดยพร้อมทำงานทันทีหากมีนโยบายมาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ทำให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะเตรียมออกมาเคลื่อนไหว โดยยืนยันว่าจะเดินหน้าคัดค้านอย่างเต็มที่และพร้อมที่จะลุกฮือประท้วง เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง

วันที่ 21 มิ.ย. นายบุญเนียม บุญทา ประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ ผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะสี่ล้อแดงในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังการมาของอูเบอร์จนมาถึงแกร็บแท็กซี่ ผู้ประกอบการสี่ล้อแดงได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะถูกแย่งผู้โดยสาร โดยสี่ล้อแดงที่ให้บริการตามกฏหมายเสียเปรียบเพราะต้องให้บริการในพื้นที่ที่กำหนดไว้ แต่แกร็บแท็กซี่กลับออกรับผู้โดยสารอย่างเสรีทั้งที่ผิดกฏหมาย

นายบุญเนียม กล่าวว่า การมาของแอพลิเคชั่นเหล่านี้ทำให้รายได้ของสี่ล้อแดง หายไปมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่เคยมีรายได้วันละ 800-1,000 บาท เหลือ 200-300 บาท ทั้งยังต้องจ่ายค่าน้ำมัน ทำให้แทบไม่มีเงินเหลือกลับบ้านในแต่ละวัน กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่และครอบครัว หากแกร็บแท๊กซี่ถูกกฏหมายจะต้องได้รับผลกระทบมากกว่านี้

ที่ผ่านมารัฐบาลลงมาจนถึงหน่วยงานรับผิดชอบไม่เคยจริงจังในการแก้ปัญหาและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เสียภาษีถูกต้องตามกฏหมาย จนทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างสี่ล้อแดงกับแกร็บแท็กซี่ ทั้งหมดนี้เกิดจากความกดดันทางอาชีพ

ประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ บอกด้วยว่า การสนับสนุนแอพลิเคชั่นเหล่านี้ เป็นการสนับสนุนทุนต่างชาติซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น หลังจากนี้ทางสหกรณ์จะรอดูท่าทีและพร้อมเคลื่อนไหวตามแนวทางของชุมนุมสหกรณ์เดินรถแห่งประเทศไทย ในส่วนของสี่ล้อแดงเชียงใหม่พร้อมจะลุกขึ้นมาคัดค้าน โดยจะระดมสี่ล้อแดงของสมาชิกที่มีอยู่กว่า 2,465 คัน มาเป็นอาวุธในการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม

สำหรับสหกรณ์นครลานนาเดินรถ ปัจจุบันมีสมาชิกเป็นรถสี่ล้อแดง 2,465 คัน ให้บริการเป็นรถหมวด 30 คือไม่ประจำทาง วิ่งบริการไม่เกินวงแหวนรอบที่สอง , รถแท็กซี่ 368 คัน และ รถตู้อีก 50 คัน ขณะที่รถที่เข้าร่วมกับแอพลิเคชั่นแกร็บในจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะมีมากกว่า 2,000 คัน

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้รับการจัดสรรโควตาดูแลกระทรวงคมนาคม และมีนโยบายทำให้แกร็บถูกกฎหมาย เคยให้สัมภาษณ์ว่า สามารถทำได้ด้วยกฎหมายเพียงระดับกฎกระทรวงเท่านั้น และมั่นใจว่าจะประสานให้ทุกฝ่ายพึงพอใจได้ จะไม่ทำแบบสุดโต่งหรือไม่มีหลักการ มั่นใจว่าไม่มีปัญหา