SHARE

คัดลอกแล้ว

จากเหตุการณ์ Good Feeling หนุ่มคนจนชื่อ “นวย” เก็บกระเป๋าหรูได้ แต่ส่งคืนเจ้าของ ทำให้คนปลาบปลื้มใจว่าคนดีๆที่บริสุทธิ์ใจยังมีในโลก

แต่ในที่สุด เรื่องก็เฉลยออกมาแล้วว่า เรื่องทั้งหมดนั้น เป็นเพียงจินตนาการของหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น

เรื่องเป็นมาอย่างไร แล้วทำไมมาโดน “จับโป๊ะ” ได้ เวิร์คพอยท์นิวส์จะสรุปเหตุการณ์ตั้งแต่แรกสุดให้ฟัง

1) เจ้าของเฟซบุ๊ก “ปุณณารมย์ สุภาพรลภัสกร” ได้โพสต์ข้อความในสเตตัสของตัวเองในวันที่ 31 พฤษภาคม ว่า

“กระเป๋าตังหล่นหาย คนเก็บได้เขาจะส่งคืนไหม?? เงินสด 2 พันกว่า หวย 4 ใบ บัตร 3 ไม่เสียดาย เสียดายกระเป๋า!!!”

2) คุณปุณณารมย์ ระบุว่าเธอไปซื้อของที่ตลาดในซอยชัยพฤกษ์ ในเขตพัทยา จังหวัดชลบุรี ระหว่างที่เธอกลับมาขึ้นรถ เอากระเป๋าแบรนด์เนม ยี่ห้อชาแนล เสียบไว้ที่ช่องข้างประตูคนขับ เข้าใจว่าทำหล่นหายตอนปิดประตู

กระเป๋าชาแนล เป็นรุ่น Classic Flap Wallet มูลค่าที่ซื้อขายกันอยู่ที่ราวๆ 3 หมื่นบาท

3) 5 มิถุนายน เวลา 17.36 น. เหตุการณ์ผ่านไป 5 วัน คุณปุณณารมย์ โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า “ได้คืนแล้วโว้ยยยย” พร้อมทั้งโพสต์รูปว่า มีชายลึกลับคนหนึ่งชื่อ “นวย” ส่งไปรษณีย์คืนกระเป๋ามาให้

โดยไม่ได้หยิบของมีค่าใดๆไปเลย ยกเว้นเพียงแค่เงินสด 200 บาท โดยบอกว่าเป็นค่าไปรษณีย์และค่าเหล้า 1 ขวด

ในโพสต์นี้ มีคนแชร์กระหน่ำหลายหมื่น โดยซึ้งใจความมีน้ำใจของหนุ่มชื่อนวย ที่เห็นของมีค่า แต่ยังคิดจะส่งคืนเจ้าของ และไม่ต้องการผลตอบแทนอะไรเลย

4) 5 มิถุนายน เช่นเดียวกัน เวลา 19.16 น. ปุณณารมย์โพสต์ต่ออีกหนึ่งสเตตัสว่า

“อัพเดทนวย

นวยรับสายครั้งแรก บอกว่ายุ่งอยู่ งานยุ่ง เทปูนก่อนนะ”

นวยไม่ต้องการเงิน ไม่มีเลขบัญชี ไม่รู้ที่อยู่ เพราะอยู่แคมป์คนงานก่อสร้าง แต่ขอแค่เหล้าขาวสองขวดพอ”

5) ข่าวเรื่องนวย กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ มีสำนักข่าวนำเสนอถึงจิตใจอันดีงาม ของช่างเทปูนลึกลับ ขณะที่ ปุณณารมย์ ได้รับชื่อเสียงมากขึ้นจากคนทั่วไป ในฐานะคนสวยผู้โชคดี ทำให้เธอได้โอกาสโฆษณาสินค้าออนไลน์ของตัวเองในเฟซบุ๊กส่วนตัว

6) อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ผ่านมาได้ 2-3 วัน ก็เริ่มมีคนตั้งข้อสังเกตมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเรื่องนี้ มีความผิดปกติหลายประการ

ยกตัวอย่างดังนี้

– ในกระดาษที่ “นวย” เขียนมาให้ ระบุว่าไปเจอกระเป๋าชาแนล “ข้างกำแพง” แต่ปุณณารมย์บอกว่า ทำตกในจังหวะปิดประตูรถยนต์ ซึ่งดูแล้วเหตุการณ์ไม่สอดคล้องกัน

– ปุณณารมย์อ้างว่า นวยส่งพัสดุไปให้ถึงคอนโดของเธอ แต่ที่อยู่ตามบัตรประชาชนในกระเป๋าเงิน เป็นที่อื่น คำถามคือนวยรู้ได้อย่างไร ว่าเธออาศัยในคอนโดนั้น

– ลายมือของนวย มีความคล้ายกับลายมือของปุณณารมย์อย่างมาก และดูจงใจสะกดผิดบางตัวอักษร เหมือนต้องการทำให้นวยเป็นตัวละครที่ไม่มีความรู้ เช่นคำว่า เสียเวลา นวยเขียนเป็น “เษียเวลา” ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ที่คนทั่วไปจะสะกดแบบนั้น

– ตอนปุณณารมย์ ทำกระเป๋าหายใหม่ๆ เธอโพสต์ว่า “คงได้กระเป๋าคืนยาก เพราะตลาดสดมีกรรมกรมาทำก่อสร้าง สิ่งที่ภาวนาคือเขาอย่าสนกระเป๋าตังค์” คือโพสต์ถึงกรรมกรก่อสร้าง ราวกับเขียนพล็อตเรื่องไว้ ว่ากรรมกรจะเป็นคนส่งกระเป๋าคืนมาให้จริงๆ

7) หลังจากมีกระแสดราม่าว่าเธอโกหก ปุณณารมย์ทำให้ชาวเน็ตเดือดมากขึ้นด้วยการโพสต์สเตตัสว่า

“ขอบคุณคำวิจารณ์ด้านลบที่ทำให้ฉุกคิดได้อีกอย่างว่า บัวไม่ได้มีแค่ 4 เหล่า แต่มีอีกเหล่านึง ที่นอกจากจะอยู่ใต้ตมแล้ว ยังมีก้อนหินทับไว้อีกชั้น”

ซึ่งนั่นทำให้เหล่านักสืบออนไลน์เริ่มต้นกระบวนการขุดคุ้ย สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ

มีการเรียงลำดับ Timeline และลงพื้นที่เพื่อดูว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นี้้ขึ้น มีมากแค่ไหน ซึ่งปรากฏว่า เป็นไปได้ยากมากๆ

8 ) ชาวเน็ตต้องการให้ ปุณณารมย์เปิดเผยตัว “นวย” เพราะถ้านวยมีจริง คำถามทุกอย่างก็จะเคลียร์หมด แต่เธอให้เหตุผลว่า ต้องการเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ซึ่งก็มีคนตั้งคำถามว่า เธอจะเก็บไว้ทำไม ถ้าหากนวยเป็นคนดี สังคมก็จะตอบแทนนวยอย่างแน่นอน และเขาก็จะได้ลืมตาอ้าปากได้ ไม่ต้องใช้ชีวิตด้วยการกินเหล้าขาวหลังเลิกงานแบบนี้

ถ้าปุณณารมย์ ต้องการตอบแทนคนที่ช่วยเธอจริงๆ นี่คือโอกาสแล้ว ยกเว้นเพียงแต่ว่า นวยคนนั้น เป็นเพียงแค่จินตนาการ ไม่มีตัวตนจริง

9) ทนายความหลายท่าน ระบุว่า กรณีของปุณณารมย์นี้ หากจับได้ว่าโกหก จะมีความผิดทางกฎหมายคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดิน

กล่าวคือทำให้เพจขายครีมของตัวเองโด่งดังขึ้นได้ จากการสร้างกระแสหลอกลวงประชาชน โดยการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่โลกออนไลน์ มีโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท

10) เมื่อเรื่องนี้ อยู่ในกระแสความสนใจของสังคม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงมาสืบคดีนี้ด้วย โดย พ.ต.อ.ขวัญชัย พัฒรักษ์ จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ติดต่อให้ ปุณณารมย์ เข้ามาให้ปากคำที่สถานีตำรวจ ปุณณารมย์รับปาก แต่เมื่อถึงวันนัด เธอไม่ได้มา

11) 14 มิถุนายน ราว 1 สัปดาห์เศษหลังจากได้คืนกระเป๋า ปุณณารมย์ ปิดเฟซบุ๊กของตัวเอง เช่นเดียวกับโทรศัพท์ส่วนตัว ก็ปิดไปแล้วเรียบร้อย

ขณะที่อินสตาแกรม kosmet_cafe ที่เป็นช่องทางให้สั่งของออนไลน์ ก็ปิดตามไปเช่นกัน เท่ากับว่า ไม่มีใครสามารถติดต่อปุณณารมย์ได้อีก

12) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ ไปถามนิติบุคคลคอนโด ว่ามีคนส่งพัสดุถึงปุณณารมย์จริงหรือไม่ นิติบอกว่า มีจริง จากนั้นตำรวจจึงตามไปต่อที่ไปรษณีย์ ซึ่งไปรษณีย์เปิดเผยว่า สินค้าที่คนส่งไปเป็นเครื่องสำอาง ไม่ใช่กระเป๋าหรูราคาแพง ตามที่ปุณณารมย์กล่าวอ้าง

13) ชาวเน็ตเริ่มขุดคุ้ยประวัติของปุณณารมย์มากขึ้น และพบว่าสิ่งที่เธอสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ อาจจะเป็นเรื่องโกหกด้วยเช่นกัน

ความเป็นกังวลของชาวเน็ตคือ การโกหกของเธอทำให้คนทั่วไปหันมาติดตามเธอมากขึ้น และเมื่อได้ติดตาม ก็จะส่งผลให้สินค้าออนไลน์ที่เธอขาย ขายดีตามไปด้วย

ซึ่งการทำตลาดด้วยการโกหก และสร้างกระแสดราม่า ถ้าหากเธอทำแล้วได้ผลดี โดยไม่โดนลงโทษอะไรเลย อนาคตใครๆก็จะใช้การสร้างเรื่องกันหมด จนไม่รู้ว่าสินค้าดีหรือไม่ดี แค่มีสตอรี่โอเวอร์ไว้ก่อนก็ขายได้แล้ว

ดังนั้นในเคสนี้จึงจำเป็นต้องให้เธอรู้ถึงความผิดพลาดของตัวเองไม่ใช่แค่ว่า สร้างเรื่องเสร็จแล้ว พอโดนจับได้ก็จบ มันอาจไม่ง่ายขนาดนั้น

14) ล่าสุดตำรวจได้ออกหมายเรียก ให้ปุณณารมย์เข้ามาพบพนักงานสอบสวนในสัปดาห์หน้าเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เนื่องจากเหตุการณ์นี้เข้าข่ายจะผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์

15) พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกบก.ปอท. กล่าวสรุปในเหตุการณ์นี้ว่า

“ฝากเตือนประชาชนที่นำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อมุ่งหวังผลบางประการ ทั้งในเรื่องของผลประโยชน์ หรือความสนุกคึกคะนอง ว่าอาจเข้าข่ายความผิด และถูกดำเนินคดีได้”

“จะมาอ้างทีหลังว่าไม่รู้กฎหมายหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ เพราะกฎหมายระบุไว้ชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

ดังนั้นการโกหก และสร้างแต่งเรื่องขึ้นมา จึงไม่ใช่แค่เรื่องขำๆอีกต่อไป ยิ่งถ้าโกหก สร้างเรื่องในออนไลน์แล้ว มันจะมีผลผูกมัดตัวเองโดยอัตโนมัติ

เขียนขำๆหน้าคีย์บอร์ด หวังเรียกยอดไลค์ ยอดแชร์ แต่ใครจะรู้ สุดท้ายอาจต้องลงเอยที่คุกก็เป็นได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า