พบ จม. “น้องชายแดน” เขียนระบาย อยู่บ้านติวเตอร์เหมือนตกนรก

ครอบครัวเก็บของในบ้านติวเตอร์พบจดหมายน้องชายแดนที่ไม่ได้ส่งถึงแม่ เขียนเล่าความในใจระบุโดนซ่อมเป็นประจำขณะกวดวิชาในสถาบัน ความรู้สึกเหมือนตกนรก

ความคืบหน้ากรณีการสืบสวนสอบสวนคดีร่วมกันทำร้าย ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน หรือน้องชายแดน อายุ 14 ปี จนถึงแก่ความตาย ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาเตรียมทหาร “บ้านครูพี่ณัฐ” น.ส.พีรญา พละแสน ภรรยา และ น.ส.นงลักษณ์ พละ แม่ยายนายณัฐพล

วันที่ 21 มิ.ย. ช่วงเวลา 13.00 น.พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายพิษณุ และนางสุวรรณา ทรัพย์สิน พ่อและแม่น้องชายแดน ไปตรวจดีเอ็นเอที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อนำมาให้พนักงานสอบสวนยืนยันเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของบุตรชายที่พบจากบ้านพักและไม้เบสบอลของผู้ต้องหาที่ใช้ทำร้าย

นางสุวรรรณา เปิดเผยว่า ทราบความคืบหน้าทางคดีจากสื่อมวลชนและพนักงานสอบสวน เบื้องต้นรู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ แต่พอทราบรายละเอียดจากสื่อมวลชนก็เสียใจมากที่ให้ลูกมาเรียนที่นี่ และยิ่งเจ็บปวดแทนลูกที่ต้องถูกกระทำเช่นนี้ โดยระบุว่าพฤติกรรมของครูณัฐผิดมนุษย์และจะไม่ขอรับการขอโทษจากผู้ต้องหาเด็ดขาด ซึ่งตนขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างถึงที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมโหดร้ายมาก หากพ้นผิดออกมาลอยนวลในสังคมจะมีเด็กเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติต้องมาสังเวยชีวิตรับบาดเจ็บเหมือนลูกตน

หลังจากน้องชายแดนเสียชีวิตแล้ว ครอบครัวได้เข้าไปเก็บของในสถาบัน แล้วไปเจอจดหมายของน้องที่เขียนบันทึกไว้เตรียมส่งให้แม่ แต่ไม่สามารถส่งได้ เมื่อพ่อและแม่นำออกมาอ่านถึงกับร้องไห้ โดยใจความสำคัญบอกว่าลูกมาอยู่ที่สถาบันเหมือนตกนรก ต้องถูกซ่อมตลอดเวลาถูกทรมานสาหัส ต้องการกลับบ้านก็กลับไม่ได้ เชื่อว่าลูกน่าจะมีเรื่องอะไรกันมาก่อนแล้วลูกโดนซ่อมตลอดเวลาและมีข้อความหยาบคายหลายคำ

นางสุวรรณา ได้อ่านจดหมายบางส่วน มีเนื้อความว่า  “ป๊าม้าอีกสองเดือนผมมีเรื่องอยากคุยด้วย เรื่องสำคัญคือว่าตอนนี้ผมอยากออกจากที่นี่แล้ว เห้ เห้ อะไรก็ไม่รู้ แดกเรื่องเดียวยาวเลย โคตรค-ย โดนบีบชิบหาย แล้วก็เรื่องทำเห้ไรก็ผิดอย่างค-ย วันนี้ไหว้ศาล ชิบหายก็คิดว่าซักผ้าหมาตรงนั้นได้ ค-ย ก็มันมีน้ำอยู่แล้วจะมีพี่เทน้ำไว้ ค-ย  ผมก็ซักสิครับ รอ ค-ย อะไรล่ะ ปุ๊บก็โดนด่า โคตร ค-ย โดนเลย” ”

รูปน้องชายแดนสมัยเรียนชั้นประถมศึกษา

ด้านนายพิษณุ ผู้เป็นพ่อเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าตอนนี้เสียใจมากที่ลูกชายคนเดียวจากไป ครอบครัวตนเหลือกันเพียงสองคนกับภรรยาเท่านั้นเนื่องจากไม่สามารถมีบุตรได้อีก และต้องการให้ครอบครัวของคนร้ายได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย อย่าออกมาสร้างความเดือดร้อนแก่สังคมอีก

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวนได้เชิญผู้ปกครองเด็กที่อยู่ในสถาบันเดียวกัน 8 รายมาสอบเพิ่มเพื่อนำพฤติกรรมของติวเตอร์มาประกอบสำนวนคดี ส่วนผู้ต้องหาอยู่ระหว่างฝากขังเป็นวันที่ 2 โดยตำรวจจะเร่งทำสำนวนให้ทันกำหนดฝากขังผัดแรก 12 วัน