แอปเปิล อิงค์ (Apple Inc.) ขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศจีน โดยระบุว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีรอบใหม่จะลดรายได้ที่แอปเปิลสร้างให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสร้างความเสียหายต่อศักยภาพการแข่งขันของแอปเปิลในเวทีโลก
วันที่ 23 มิ.ย. 2562 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในจดหมายที่เขียนถึงโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนทางการค้าของสหรัฐ (USTR) ซึ่งเผยแพร่เป็นสาธารณะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (20 มิ.ย.) แอปเปิลระบุว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีสูงสุดร้อยละ 25 นั้นจะส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์หลักทั้งหมดของแอปเปิล ซึ่งรวมถึงไอโฟน ไอแพด แมค แอร์พ็อด และแอปเปิลทีวี
“เราขอให้รัฐบาลสหรัฐไม่ใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้” แอปเปิลกล่าวในจดหมายซึ่งลงวันที่ 17 มิ.ย. พร้อมระบุว่าแอปเปิลเป็นหนึ่งในบริษัทที่สร้างตำแหน่งงานมากที่สุดในประเทศ และเป็นหนึ่งในผู้ที่จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นปริมาณมากที่สุดให้กับกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ
“การเก็บภาษีกับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลจะส่งผลออกมาในรูปแบบของการลดรายได้ที่แอปเปิลสร้างให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ” แอปเปิลกล่าวผ่านจดหมาย และยังระบุว่าภาษีของสหรัฐฯ จะ “ถ่วง” ศักยภาพการแข่งขันบนเวทีโลกของแอปเปิลอีกด้วย
แอปเปิลชี้ว่ามาตรการภาษีของรัฐบาลครอบคลุมไปถึงชิ้นส่วนและแบตเตอรีที่ใช้สำหรับซ่อมผลิตภัณฑ์ในสหรัฐฯ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่ทางบริษัทผลิตขึ้นมาใช้กับอุปกรณ์ดังกล่าว เช่น จอมอนิเตอร์และแป้นพิมพ์
จดหมายของแอปเปิลได้รับการเปิดเผยในวันที่ 4 ของช่วงรับฟังความเห็นเป็นระยะเวลา 7 วันต่อประเด็นการขู่ขึ้นภาษีร้อยละ 25 กับผลิตภัณฑ์จีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.2 ล้านล้านบาท) ซึ่งนอกจากบริษัทแอปเปิลแล้วยังมีบริษัทต่างๆ จากอุตสาหกรรมเคมี สุขภาพ และจักรยานร่วมแสดงความคิดเห็นต่อมาตรการปรับขึ้นภาษีดังกล่าว
ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐอเมริกา (SIA) ก็ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อมาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว โดยระบุว่าการขึ้นภาษีผลิตภัณฑ์ไอทีที่นำเข้าจากจีนจะสร้างความพิกลพิการให้กับเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมไอทีของสหรัฐฯ รวมถึงลดมูลค่าตลาดไอทีของสหรัฐฯ ลงถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.15 ล้านล้านบาท) ในปี 2019 และ 2020 ซึ่งจะฉุดปริมาณการใช้จ่ายในภาคไอทีลงเกือบร้อยละ 3
ข้อมูลจาก :: China Xinhua News