ครม. “ประยุทธ์2” วุ่นเพราะอธิบายไม่ได้ใช้สูตรไหนแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี

(กลุ่มสามมิตร นำ อดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ / แฟ้มภาพ)

โค้งสุดท้ายของการสรุปรายชื่อรัฐมนตรีรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” แทนที่จะเป็นไปอย่างเรียบร้อยเพราะทอดเวลามาเนิ่นนานพอสมควร กลับเกิดแรงกระเพื่อมใหญ่เมื่อถึงขั้นตอนการตามตัวว่าที่รัฐมนตรีให้มารับแบบฟอร์มกรอกประวัติ

เพราะทำให้บางคนเพิ่งรู้ตัวว่าจะพลาดเก้าอี้เนื่องจากไม่มีการเรียกให้ไปรับแบบฟอร์ม หรือแม้กระทั่งคนที่ได้เก้าอี้รัฐมนตรีแน่ๆ ก็อาจจะถูกสลับกระทรวงจากที่รับปากไว้ ซึ่งเกือบทั้งหมดนี้ ล้วนเกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

นายอนุชา นาคาศัย และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (แฟ้มภาพ)

ความเคลื่อนไหว ตลอดทั้งวันที่ 28 มิ.ย.
– มีรายงานข่าวนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตรไม่พอใจที่ถูกสลับเก้าอี้รัฐมนตรี โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จะมาเป็น รมว.พลังงาน ส่วนนายสุริยะ จะถูกสลับไปเป็น รมว.อุตสาหกรรม
– นายอนุชา นาคาศัย ที่มีข่าวจะหลุดทุกเก้าอี้ ยังหวัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรักษาสัญญาตำแหน่ง รมช.คลัง ที่รับปากไว้
– นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ที่เดิมคาดว่าจะเป็น รมว.แรงงาน อาจจะหลุดทุกเก้าอี้ ตัดพ้อว่ากลุ่มภาคกลางจะขาดโอกาสในการขับเคลื่อนงาน
– นายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ ที่เดิมจะได้เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกรอกประวัติไปแล้ว ประกาศถอนตัวเปิดทางให้ผู้ที่มีความสามารถตรงสายมารับตำแหน่ง

(ขอบคุณภาพ FB : พรรคพลังประชารัฐ)

สำหรับโควตารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ คาดว่าจะได้ 17 คน จากจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด 35 คน

เป็นโควตาของ พล.อ.ประยุทธ์ ไปแล้ว 4 คน คือ
– พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
– พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
– นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
– พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม

โควตาของกลุ่มนายสมคิด 5 คน คือ
– นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
– นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง
– นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.อุตสาหกรรม / หรือ รมว.พลังงาน
– นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
– นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (แทนนายอัครา พรหมเผ่า)

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์และณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

โควตาของกลุ่ม กปปส.- กทม. 2 คน
– นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ
– นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

โควตาของกลุ่มสามมิตร 2 คน
– นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.พลังงาน / หรือ รมว.อุตสาหกรรม
– นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม

โควตาของกลุ่มโคราช 1 คน (ส.ส.เขต 6 คน)
– นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม

โควตาของกลุ่มชลบุรี (ตระกูลคุณปลื้ม) 1 คน
– นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม

โควตากลุ่มเพชรบูรณ์ 1 คน (ส.ส.เขตยกจังหวัด 5 คน)
– นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง

ส่วนโควตารัฐมนตรีแรงงาน เดิมที่เป็นของกลุ่มภาคกลาง อาจจะมีการสลับกระทรวงกับ รมว.ต่างประเทศของพรรครวมพลังประชาชาติไทย และอาจจะให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศคนปัจจุบันทำหน้าที่ต่อ ซึ่งก็จะเป็นโควตาของ พล.อ.ประยุทธ์ อีก

ซึ่งเมื่อพิจารณาจากรายชื่อตามคาดนี้ ย่อมส่งผลให้นักการเมืองอาชีพที่เข้าร่วมในพรรคพลังประชารัฐไม่พอใจ เพราะตำแหน่งกว่าครึ่งหนึ่งถูกกันไปให้เหล่าคนของผู้ใหญ่ของพรรค จนแทบไม่เหลือมาจัดสรร ให้กับกลุ่มของ ส.ส. ที่ลงเลือกตั้ง

โดยกลุ่มที่จะไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเลย

– กลุ่มภาคเหนือ ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
– กลุ่มภาคอีสานตอนบน ของนายเอกราช ช่างเหลา ที่ได้ ส.ส. เขต 2 คน และคำนวณคะแนนเป็นปาร์ตี้ลิสต์อีก 17 คน
– กลุ่มด้ามขวาน ส.ส.เขต 10 คน (ไม่รวม ส.ส.จังหวัดชายแดนใต้ 3 คน)

– กลุ่มภาคกลาง ของนายสุชาติ ชมกลิ่น16 คน (ชลบุรี 3 คน เพชรบุรี 3 คน กาญจนบุรี 4 คน ฉะเชิงเทรา 2 คน สมุทรปราการ 1 คน สระบุรี 1 คน ระยอง 1 คน และนครปฐม 1 คน)

– รวมทั้งกลุ่มสามมิตรที่โควตารัฐมนตรีลดลงจาก ตำแหน่ง รมช.คลังของนายอนุชา นาคาศัย ที่ถูกดึงกลับ

ความไม่ลงตัวที่สำคัญของพรรคพลังประชารัฐ จึงมาจากสูตรการคำนวณ ที่แม้แต่คนในพรรคก็น่าจะไม่แน่ใจว่าใช้เกณฑ์อะไร เพราะทั้ง เกณฑ์แบ่งตามภาค, เกณฑ์แบ่งตามจำนวน ส.ส., เกณฑ์รายกลุ่ม หรือแม้แต่เกณฑ์ความเหมาะสมต่อตำแหน่ง ก็ไม่สามารถอธิบายสิ่งเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน

ต่างจากกรณีของพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันไปแล้วอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่จัดสรรโควตาผสมผสานทั้งจำนวน ส.ส. และรายภาคได้อย่างประนีประนอม จะมีปัญหาก็แต่ตัวบุคคลในแต่ละตำแหน่งที่อาจเห็นไม่ตรงกันบ้าง

ปัญหาของพรรคพลังประชารัฐ จึงจะกลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องกลับมาแก้หลังกลับจากการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่น เพราะความอึดอัดไม่พอใจของกลุ่มต่างๆ ยิ่งมีมากขึ้นเท่าไร ยิ่งส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลที่มีเสียง ส.ส.ปริ่มน้ำมากเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• “อนุชา” เดือดเสียเก้าอี้ให้ชาติพัฒนา เหมือนไปรบชนะแต่ถูกตัดหัว