หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เผย เตรียมนัดพรรคร่วมเขียนนโยบายรัฐบาลในสัปดาห์นี้ พร้อมผลักดัน 3 นโยบายหลักของพรรค โดยไฟเขียวนโยบายกัญชาเสรีให้พรรคภูมิใจไทยดูแล ส่วนเรื่องประกันราคาข้าวต้องหารือกับพรรคประชาธิปัตย์
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ดร.อุตตม สาวนายน โดยระบุว่า นโยบาย สร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อปากท้องพี่น้องประชาชน ต้องเร่งทำก่อน โดยเตรียมนัดพรรคร่วมหารือ เพื่อเขียนนโยบายของรัฐบาลในสัปดาห์นี้
สำหรับนโยบาย ที่คิดว่าจะสามารถทำได้ทันทีมี 3 นโยบาย ได้แก่
1. นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นโยบายนี้ขึ้นกับกระทรวงการคลัง ซึ่งตอนนี้ร้านค้าต่างๆ ที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้ได้ก็มีสินค้าด้านการเกษตร สินค้าชุมชน ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านขายอยู่ นอกจากนี้การรูดบัตรไม่จำเป็นต้องใช้เครืองรูดบัตรอย่างเดียวแล้ว เนื่องจากนี้ตอนนี้มีแอปพลิเคชั่นของธนาคารกรุงไทยมาใช้ได้แล้ว ก็ทำให้ประชาชนมีความสะดวกมากขึ้น
2.นโยบายพักหนี้เกษตรกร คิดว่าหลายพรรคการเมือง คงเห็นด้วยและไม่ต้องใช้งบประมาณมาก จึงสามารถทำได้เลย เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
3.นโยบายมารดาประชารัฐ ถือเป็นนโยบายหลักของพรรค ซึ่งนโยบายนี้ช่วงหาเสียงพบว่า มีช่องโหว่ คือการไม่ได้จำกัดอายุผู้ที่จะมีบุตร ซึ่งในรายละเอียดจะต้องมีการระบุอายุว่าต้องอายุเท่าไหร่ถึงจะรับเงินตรงนี้ เพื่อป้องกันปัญหา “แม่วัยใส”
ส่วน นโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย คงจะเป็นหน้าที่ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่จะเป็นคนดูแลเป็นหลัก โดยจะประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ มองว่า เป็นนโยบายที่ควรผลักดันให้มีการขับเคลื่อนต่อไป
ขณะที่ นโยบายเรื่องการเกษตร จากเดิมพรรคพลังประชารัฐเสนอให้ ราคาข้าวเปลือกเจ้าต้องได้รับเกิน 10,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวหอมมะลิต้องได้เกิน 15,000บาทต่อตัน และเพิ่มค่าเก็บเกี่ยวจากไร่ละ 1,500 บาท เป็น 2,000 บาท นโยบายนี้เป็นงบที่ผูกพันและต้องคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า เห็นด้วยกับแนวทางนี้หรือไม่ หากไม่เห็นด้วยก็ต้องมาประสานหาข้อสรุปร่วมกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับได้
“ผมขอเรียนต่อพี่น้องประชาชนว่า เมื่อมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว พรรคพลังประชารัฐจะเร่งนำนโยบายหลักๆมาดำเนินการทันที โดยเฉพาะเรื่องปากท้องและการสร้างงาน สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน การดูแลภาคเกษตรโดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตร เพื่อที่จะให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเข้มแข็งขึ้น วันนี้บ้านเมืองมีความสงบ ต่างชาติก็มีความเชื่อมั่นที่จะมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น” นายอุตตม ระบุในตอนท้าย