DSI สนธิกำลังทหาร ป่าไม้ เข้าตรวจสอบเหมืองแร่แห่งหนึ่งในจังหวัดแพร่ ก่อนหน้านี้ถูกชาวบ้านร้องเรียนว่า การทำเหมืองส่งผลกระทบกับแหล่งน้ำ เมื่อตรวจสอบก็พบการทำเหมือง โดยรับช่วงต่อมาจากเจ้าของตัวจริง ซึ่งอาจจะผิดระเบียบ และพบการใช้พื้นที่บางส่วนอาจจะเข้าข่ายรุกป่า
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ หน่วยพยัคฆ์ไพร ทหาร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนธิกำลังเข้าตรวจสอบเหมืองแร่ บริษัทศศิน จำกัด ในพื้นที่ตำบลต้าผามอก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ภายหลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการดำเนินการผิดกฎหมายในการประกอบกิจการ
จากการตรวจสอบ พบนายพิทักษ์ วัชยไพบูลย์ อ้างเป็นผู้ดูแลเหมือง บอกว่าตอนนี้ได้หยุดดำเนินการขุดเจาะแร่มานานกว่า 1 เดือน ภายหลังได้รับคำสั่งให้หยุดการดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายพิทักษ์ พาเจ้าหน้าที่นำชี้จุด บริเวณพื้นที่ต้องสงสัย พร้อมทั้งรางวัดที่ดินที่บุกรุก
บริษัทเหมืองศศิน จำกัด มีชื่อนายมณฑล สุริยาศศิน เป็นประธานกรรมการบริษัท ได้รับช่วงทำเหมืองแร่ ต่อจากนายกฤษฎา กัมปนาทแสนยากร ที่เดิมได้รับอนุญาตเช่าพื้นที่ทำประโยชน์ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าตามระเบียบไม่สามารถรับช่วงต่อได้
“ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ไม่สามารถให้การเช่าช่วงได้ เป็นการอนุญาตเฉพาะรายบุคคล อนุญาตให้เฉพาะนายกฤษฎา ถ้านายมณฑลจะขออนุญาตใช้พื้นที่ นายมณฑลก็ต้องไปขออนุญาตกรมป่าไม้ใหม่” สมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 จ.แพร่ กล่าว

นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 จ.แพร่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้อายัดเครื่องจักรและสิ่งของในพื้นที่เหมืองแร่ ไว้ตรวจสอบ โดยห้ามเคลื่อนย้าย พร้อมทั้งดำเนินคดีกับ นายมณฑล และนายกฤษฎา ในข้อหาร่วมกันบุกรุกป่า
หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. นำหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิดเข้าตรวจห้องเก็บยุทธภัณฑ์ ที่ใช้ระเบิดภูเขา ว่าจัดเก็บถูกต้องหรือไม่ โดยพบว่ามีการลักลอบใช้แก๊ปไฟฟ้า ในระหว่างที่ถูกระงับการขุดเจาะและยังพบปัญหาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมกับคนพื้นที่ถิ่น จะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด
เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมลงพื้นที่ตรวจ เพื่อพิจารณาเป็นคดีพิเศษเนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก และสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เหมืองแร่แห่งนี้ ดำเนินการ และจำหน่ายแร่ให้กับบริษัทจุดเจาะน้ำมันรายใหญ่ของประเทศอย่างน้อย 2 แห่ง เบื้องต้นพบมูลค่าที่รัฐเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
ขณะที่เหมืองแร่ศศิน อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขอประทานบัตรเพื่อขยายพื้นที่ทำเหมืองอีกไม่ต่ำกว่า 400 ไร่ เหลือแต่ขั้น ตอนการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการยื่นขอ