SHARE

คัดลอกแล้ว

จากหน้าจอทีวี สายตาของผู้ชมย้ายสู่หน้าจอสมาร์ทโฟนและแท็บแล็ต ข่าวการคืนช่องทีวีดิจิทัลมากมายแม้จะเป็นเรื่องที่ใจหาย แต่ก็ดูจะยอมรับได้ในแง่เหตุผล ว่ามันไม่สามารถทำเงินสู้ช่องทางออนไลน์บนแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานอยู่ทั่วทุกมุมโลกได้อีกแล้ว

จากผังรายการ สู่เพลย์ลิสต์บนแชนแนลยูทูบ หรือไทม์ไลน์เฟซบุ๊กที่ช่วงเวลาและความสร้างสรรค์กว้างใหญ่ขึ้นไม่สิ้นสุด ความน่าสนใจหนึ่งคือเรื่องของรูปแบบการนำเสนอที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันมีรายการบนช่องทางยูทูบมากมาย คนดังหลายต่อหลายคนก็หันมาเป็นยูทูบเบอร์เสียเอง ขณะที่เรื่องของคอนเท็นต์ก็มีหลากหลาย บางแชนแนลเป็นรูปแบบของการลงทุนทำโปรดักชันรายการไปเลย

ฟรีสไตล์มากขึ้น ใช้คำหยาบคายได้มากขึ้นโดยไม่ผิดกฎหมายใดๆ บางแชนแนลนำเสนอผ่านรูปแบบ Vlog หรือคลิปไลฟ์สไตล์ตามติดชีวิตประจำวัน บ้างเป็นคลิปสอนต่างๆ เช่น แต่งหน้า เล่นเกม ฯลฯ หรือเป็นคลิปที่เจ้าของแชนแนลพาตัวเองเข้าไปในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อทดลองสิ่งใหม่ๆ ให้ผู้ติดตามได้ร่วมลุ้นไปเรื่อย เช่น ลองชิมร้านเด็ด หรือทดลองเปิดกลุ่มสุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่หนึ่งคลิปจะมีความยาวราว 15-20 นาที ไม่เกิน 30 นาที ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนดูยุคใหม่ที่เสพอะไรที่สั้นขึ้น แต่ต้องการความครบถ้วนทั้งในแง่ของเนื้อหาและอารมณ์ร่วม

ซึ่งนอกจากแพล็ตฟอร์มออนไลน์จะเป็นโอกาสใหม่สำหรับสื่อหรือคนดังที่มีพื้นที่สื่อในมือมาก่อนแล้ว มันยังเปิดโอกาสให้กับคนทั่วไป สามารถก้าวเข้ามาเป็นผู้ถือครองคอนเทนต์และสร้างชื่อเสียง ความสำเร็จ ตลอดจนเงินทอง ได้อย่างไม่นึกไม่ฝันด้วย

ลองคิดดูง่ายๆ ปัจจุบันโมเดลธุรกิจยูทูบ ทำให้การหารายได้เป็นเรื่องง่ายมาก และเรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว โดย 1. ยูทูบจะแบ่งเงินให้ยูทูบเบอร์ที่เป็นพาร์ทเนอร์กันผ่านระบบการแทรกโฆษณาลงไปในคลิป 2. ยอดวิวของแต่ละคลิป และ 3. หากยูทูบเบอร์มีสินค้าหรือบริการเข้ามาให้ไท-อิน รับเชิญไปงานอีเวนท์ ก็สามารถรับเงินจากผู้จ้างได้อีกต่อ หรือบางช่องก็เปิดช่องทางรับบริจาคเงินสนับสนุนทำคลิปจากผู้ชมอย่างเป็นทางการด้วย

จาก Nobody เป็น Someone

กระแสยูทูบเบอร์ในไทยพูดถึงก็น่าจะเริ่มมาราวสอง-สามปีที่ผ่านมานี้เอง คนแรกๆ ที่เรานึกถึงและขอใช้คำว่า Break internet ในยุคที่เขาเริ่มโด่งดัง ก็น่าจะเป็น Kayavine หรือ เค เลิศสิทธิชัย หนุ่มตี๋นักเรียนนอกวัย 22 ปี ซึ่งแน่นอนว่านอกจากหน้าตาที่ทำให้สาวไทยต้องรีบค้นหาว่าเขาเป็นใครมาจากไหน คอนเทนต์วิดีโอที่เขาทำก็เรียกได้ว่ามีประโยชน์สำหรับหลายคน เพราะเคแชร์ประสบการณ์เรียนเมืองนอก เช่น คลิป “เรียนอเมริกาใช้เงินวันละเท่าไหร่?!?” คลิปสอนภาษาอังกฤษ และหากิจกรรมแปลกๆ ทำ พาผู้ชมตามไปดูด้วยเสมอๆ

ปัจจุบันเคมีผู้ติดตามบนยูทูบแชนแนลมากถึงเกือบ 8 แสนคน มีผู้ชมเข้าดูคลิปของเขารวมเกือบ 53 ล้านครั้ง ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวกรุยทางทำให้ปัจจุบันริ่มเข้าวงการบันเทิงไทย มีผู้จัดการส่วนตัว และได้รับการจ้างงาน ร่วมงานกับคนดังคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ

ยูทูบเบอร์คนอื่นจับตามองก็คงหนีไม่พ้น เก๋ไก๋สไลเดอร์ หรือ ณัฐธิชา นามวงษ์ เจ้าของช่อง Kaykai Slider แชนแนลแรกในไทยที่มียอดผู้ติดตาม 10 ล้านคน และได้รับโล่เพชรจากยูทูบ หลักๆ เธอทำคลิปไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว และแกล้งแฟน เน้นมาสายฮา ซึ่งโดนใจคนดูจนบางคลิปมียอดวิวถึง 40 ล้านวิว โดยคลิปที่ฮือฮาที่สุดคือคลิปที่เธอเอาเงิน 1 ล้านบาทที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอให้แม่

YouTube video

Ananped ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามราว 1.3 ล้านคน และส่วนใหญ่เป็นเด็กมัธยม ก็เป็นหนึ่งในยูทูบเบอร์ที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้ ด้วยคาแร็กเตอร์และการพูดการจาแบบกวนๆ ชอบทำคอนเท็นต์เล่าเรื่องตลก แต่งหญิงแกล้งคน หรือทดลองกินของแปลก ทำให้แฟนคลับเด็กๆ ชื่นชอบเป็นอย่างมาก

หรือที่มาแรงสุดๆ ณ วันนี้ เลยก็ต้อง ‘พิมรี่พาย’ หรือ พิมพ์พรรณ สรัลรัชญ์ แม่ค้าออนไลน์เงินล้านปากจัด สุดแซ่บ ที่ประสบความสำเร็จในการค้าขายไปแล้ว เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเธอเข้ามาวัดดวงในแวดวงยูทูบอีกคน ด้วยการทำวิดีโอไลฟ์สไตล์และสอนแต่งหน้า ความตรงไปตรงมาทั้งคำพูดและท่าทาง ความตลกและความแรงของเธอทำให้หลายคนส่งต่อและตัดต่อคลิปของเธอมาแชร์กันอย่างกว้างขวางในช่วงนี้จนเป็นกระแส

YouTube video

อันที่จริงหากลองถอดสมการความสำเร็จของยูทูบเบอร์ที่ดังในไทยแต่ละคนดู จะพบว่า นอกจากการอัพเดทเทรนด์ หรือนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่แบบ Kayavine แล้ว แนวที่ได้รับความนิยมมาก ก็คือคอนเทนต์แนวบ้านๆ เน้นการนำเสนอตัวตนใกล้ชิดผู้ชม ที่สำคัญต้องตลกและสร้างเสียงหัวเราะได้ โดยส่วนใหญ่แล้วการค้นหาคาแร็กเตอร์ของตัวเอง และความถนัดในการนำเสนอ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะนั่นคือการกำหนดทิศทางว่าช่องจะไปทางไหน

YouTube video

ความสำเร็จบนโลกยูทูบ บอกได้เลยว่ายิ่งใหญ่มาก เพราะหลายแชนแนลยูทูบเห็นโอกาสการทำเงิน ถึงขั้นจดบริษัทโปรดักชั่นมาทำคลิปอย่างจริงจัง มีคนคิดคอนเทนต์ คนทำกราฟิก ตากล้อง ตัดต่อพร้อมสรรพ

มาถูกทาง คว้าเม็ดเงินมหาศาล

ในปี 2006 กูเกิลซื้อยูทูบมาด้วยมูลค่า 1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากนั้นยูทูบได้ชื่อว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่ชาญฉลาดอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยการสร้างรายได้จากแพล็ตฟอร์มผ่านการรันโฆษณาจากทั่วโลก ในปีนี้ ยูทูบได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าหมุนเวียนสูงถึง 160,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นแพล็ตฟอร์มที่สร้างรายได้เป็นอันดับ 2 รองจากเฟซบุ๊กเท่านั้น

YouTube video

โดยมีการสำรวจรายได้คาดการณ์ในปี 2018 ของ 10 อันดับยูทูบเบอร์ของโลก โดยทั้ง 10 คนมีรายได้รวมกัน 180.5 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 42% จากปี 2017 อันดับหนึ่งคือ ‘RYAN TOYSREVIEW’ หนุ่มน้อยวัย 7 ขวบที่คอยรีวิวของเล่นให้ผู้ติดตาม 17 ล้านคนของเขาได้ชม ซึ่งปีที่แล้วคาดการณ์รายได้ของไรอัน อยู่ที่สูงที่ 22 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว แน่นอนว่าเม็ดเงินมากขนาดนี้ ถ้าไม่ดึงดูดใจให้คนจำนวนมากอยากเริ่มอาชีพยูทูบเบอร์ คงจะแปลก

เกิดและดับด้วยกระแส สัจธรรม YouTuber

ก่อนที่จะรวย การเป็นยูทูบเบอร์ไม่ได้ง่าย และชื่อเสียงก็ไม่ได้มาง่ายๆ ด้วย ลองคิดว่าว่าในหนึ่งวันมีคนพยายามสร้างช่องของตัวเองขึ้นมานับพันนับหมื่นคน จะทำอย่างไรให้คอนเทนต์วิดีโอของเราสามารถครองใจผู้ชมได้ และแน่นอนว่าหาเงินได้ในที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าดังแล้วจะลอยตัวได้ สิ่งที่ตามมาที่จะต้องดีลมีอีกมากมาย ทั้งเรื่องของความเครียดและแรงกดดันจากสาธารณะ หรือการรักษาโปรไฟล์ให้ดี เพราะไม่รู้ว่าวันไหนดราม่าจะเข้ามาเล่นงาน ซึ่งก็มีเคสที่เกิดขึ้นจริง ยูทูบเบอร์ไทยเกือบหมดอนาคตเพราะโพสต์เหยียดชนชั้น จนเกิดกระแสตีกลับจากคนดู

PewDiePie โพสท่าถ่ายรูปกับแฟน ๆ เมื่อเขามาถึงเพื่อเข้าร่วมงาน Singapore Social Star Awards ที่มารีน่าเบย์แซนด์สในสิงคโปร์ เมื่อปี 2013 (Photo by ROSLAN RAHMAN / AFP)

ที่ต่างประเทศเอง ก็มีเคสที่ ‘PewDiePie’ เกมเมอร์คนดัง เคยทำมีม (Meme) ตัวเองเพื่อให้คนแชร์ต่อ เรียกคนมากดติดตามช่องมากขึ้น แล้วดันไปเอี่ยวกับเหตุการณ์กราดยิง เมื่อมือปืนที่กราดยิงมัสยิดในนิวซีแลนด์ ดันตะโกนคำว่า ‘Subscribe to Pewdiepie’ ออกมาในไลฟ์สด จนเขาต้องออกมาขอร้องให้ยุติการส่งต่อมีมตัวเองก่อนที่ตัวเขาจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งไปเสียก่อน รวมไปถึงเคสของ ‘James Charles’ ยูทูบเบอร์สายบิวตี้ ที่ทะเลาะกับเพื่อนยูทูบเบอร์จนเสียยอดผู้ติดตามนับล้านภายในวันเดียว ขณะที่บางคนโด่งดังจากการเป็นยูทูบเบอร์แล้วรับกับความกดดันและเสียงด่าทอไม่ได้ จนมีสภาพจิตใจย่ำแย่สุดๆ

ดังนั้นการเป็นยูทูบเบอร์ คือการรับมือกับความเสี่ยง และเส้นแบ่งความเป็นส่วนตัวที่พร่าเลือนในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยูทูบเบอร์แต่ละคนจำเป็นจะต้องหาทางจัดการมันด้วยตัวเอง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Social Icon | สื่อจีนนำเสนอเรื่อง “น้องแพรพาเพลิน” ซื้อ BMW หกล้านในวัย 12 ปี

Social Icon | เปิดชีวิต Nas Daily นักทำคลิปวิดีโอบนเฟซบุ๊ก หมื่นล้านวิว เปลี่ยนโลก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า