รองโฆษกสำนักนายกฯ แจ้งข่าว “บิ๊กตู่” ห่วงปัญหาภัยแล้งหลายพื้นที่สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการจัดหาน้ำ ด้าน “บิ๊กป้อม” สั่งงานสุดท้ายในฐานะ รมว.กลาโหม ให้กองทัพประสานฝ่ายปกครอง ดูแลพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม-ดินโคลนถล่ม
วันที่ 16 ก.ค. พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิดเนื่องจากบางพื้นที่เริ่มมีฝนทิ้งช่วง ทำให้ประชาชนและเกษตรกรขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่รัฐ และจิตอาสา ไปติดตามความเดือดร้อนของประชาชนและให้ความช่วยเหลือเป็นรายพื้นที่
“นายกฯ ทราบว่า บางจังหวัดได้ประกาศเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จึงกำชับให้ลงไปตรวจสอบปัญหาและแก้ไขโดยเร่งด่วน ส่วนพื้นที่ใดมีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำในช่วงนี้ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งทำงานเชิงรุก อย่าปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อน”
พล.ท.วีรชน กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรียังฝากไปถึงเกษตรกรว่าให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เช่น กักเก็บน้ำไว้ใช้ในแหล่งน้ำของตัวเอง ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้เพาะปลูก ขอให้ชะลอการปลูกออกไปก่อน จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ที่มีฝนตกตามปกติ ซึ่งคาดว่าน่าจะหลังเดือน ก.ย.ไปแล้ว พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ การสูบน้ำ การแจกจ่ายน้ำ ทั้งพลเรือนและทหาร จัดสรรน้ำและสร้างการรับรู้ถึงข้อควรปฏิบัติให้ประชาชนและเกษตรกรทราบอย่างต่อเนื่องด้วย
ด้าน พ.อ.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับความเดือดร้อนในช่วงหน้าฝน จึงได้สั่งการให้หน่วยทหารทุกเหล่าทัพ ตำรวจและฝ่ายปกครองประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาฝนตกหนัก อันอาจเป็นเหตุทำให้น้ำท่วมขังมีน้ำหลากหรือมีดินโคนถล่มรวมถึงส่งผลกระทบต่อชาวประมงในการเดินเรือในช่วงนี้ได้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออก ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนระหว่างวันที่ 16-21 ก.ค.
โดยให้มีการปรับแผนเตรียมความพร้อมทั้งการป้องกันและการแก้ไขในพื้นที่เสี่ยง ต้องสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนให้ทันเหตุการณ์เพื่อลดความเสียหายและอันตรายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอดจนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งขอให้ประสานสาธารณสุขพื้นที่ร่วม ระวังป้องกันโรคระบาดที่มากับน้ำและการควบคุมโรคมือเท้าปากและไข้เลือดออกที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา
สำหรับพื้นที่ กทม. ขอให้ลงพื้นที่ร่วมกับชุมชนในทุกเขต เร่งสำรวจพื้นที่เสี่ยงกำหนดมาตรการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่วและการสัญจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างตามเส้นทางโดยเฉพาะระบบการระบายน้ำ พื้นที่รับน้ำและการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อลดปัญหาการจราจรที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตเมือง
พร้อมสั่งย้ำให้ทหารตำรวจ ฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่มีการซักซ้อมแผน บูรณาการทำงานลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนโดยมีการจัดชุดช่างซ่อมยานพาหนะและชุดแพทย์เคลื่อนที่ให้พร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชนได้ทันที