เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ชวนนักท่องเที่ยวชมชุมชนเก่า วัดหนองบัว (ใหญ่) ที่จมน้ำใต้เขื่อนมาร่วม 20 ปี วันนี้เจอสภาพแล้งจนโผล่ขึ้นมาจากน้ำให้เห็นอีกครั้ง ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนวันนี้ มีปริมาณ 44 ล้าน ลบ.ม.
วันนี้ (23ก.ค.62) นายศุภชัย มโนการ ผู้อำนวยการโครงการป่าสักชลสิทธิ์ เปิดเผยว่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ร่วมกับ นายก อบต. หนองบัว เชิญชวนเที่ยววัดหนองบัว (ใหญ่) ที่จมน้ำในเขื่อนป่าสักมา ร่วม 20 ปี
จากปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือน้อย ทำให้วัดหนองบัว(ใหญ่)ที่จมน้ำในเขื่อนป่าสักมาร่วม 20 ปี ทำให้เห็นวัดหนองบัว(ใหญ่)ได้ชัดเจน เคยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2558 และครั้งนี้ เป็นครั้งที่2 ที่ประชาชนสามารถลงชมวัดเก่าจมน้ำ โดยสามารถชมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงระดับน้ำที่ไม่สามารถจะลงไปได้
สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำเข้าอ่าง ฯ ปี 2561 ตั้งแต่ 1 ม.ค. 61 -22 ก.ค. 61 มีปริมาณ 345 ล้านลบ.ม. ส่วนปริมาณน้ำเข้าอ่าง ปี 2562 ตั้งแต่ 1 ม.ค. 62 – 22 ก.ค. 62 มีปริมาณ 0.76 ล้านลบ.ม.
ส่วนระดับน้ำ วันที่ 22 ก.ค. 61 +37.65 ม.รทก. ปริมาณน้ำ 260.05 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 27.09% และ วันที่ 22 กค.2558 +33.49ม.รทก. ปริมาณน้ำ 39 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 4.10% (เป็นปีที่เคยเกิดขึ้น น้ำน้อยที่สุด)
แม้ว่าน้ำในเขื่อนวันนี้ มี 44 ล้าน ลบ.ม. ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก กรมชลประทาน ได้วางแผนการใช้น้ำโดยส่งช่วยด้านอุปโภค บริโภค อุตสาหกรรมและรักษาระบบนิเวศน์วันละ 700,000 ลบ.ม. สามารถส่งได้ต่อเนื่องทุกวัน และคาดว่าต้นเดือน ส.ค.นี้ จะมีน้ำมาเติมในเขื่อน
อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนต้องตระหนักใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนภาคการเกษตร ขอให้เกษตรกรรอใช้น้ำฝนในการทำนา และขอให้ใช้แนวทางโครงการชลประทานเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ (โคก หนอง นา โมเดล) เพื่อน้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ปรับใช้ สร้างความยั่งยืน มั่นคงกับเกษตรกรเกี่ยวกับการเพิ่งพาตนเอง โดยเฉพาะด้านน้ำ