SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง จากการอนุมัติให้มีการเปลี่ยนสัญญาการก่อสร้างโรงพักทดแทน ทั่วประเทศ 396 แห่ง วงเงิน 5,800 ล้านบาท จากเดิมที่เป็นสัญญาแยกรายภาค 9 ภาคมาเป็นรวมศูนย์สัญญาเดียว และต่อมาเกิดปัญหาก่อสร้างไม่เสร็จ

วันที่ 24 ก.ค. ที่ศาลอาญา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวระหว่างไปขึ้นศาลในคดีร่วมกันเป็นกบฏและขัดขวางการเลือกตั้ง ระหว่างการชุมนุม กปปส.ว่า ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ จึงต้องขอให้รับแจ้งจาก ป.ป.ช.ก่อนว่าชี้มูลความผิดเรื่องอะไร จากนั้นตนจะชี้แจงต่อประชาชนแต่ละเป็นตามข้อกล่าวหา

สำหรับการก่อสร้างสถานีตำรวจแล้วไม่แล้วเสร็จ มีการหยิบยกมาเป็นประเด็นทางการเมืองโจมตีตนมาหลายปี ตั้งแต่ช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ปี 2556 โดยคนเป็นตัวตั้งตัวตีตน คือนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งถูกตนดำเนินคดีและตอนนี้ถูกคำพิพากษาจำคุก แต่กระบวนการในการพยายามจะดำเนินคดีกับตนก็ยังต่อเนื่องมา รวม 5 ปีเศษ นานมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเมื่อป.ป.ช.มีมติชี้มูลมาก็เป็นโอกาสที่จะได้นำหลักฐานไปพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรม คดีนี้คงใช้เวลาไม่นานเพราะต้องไปสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

“ผมต้องกราบเรียนต่อพี่น้องประชาชนที่มีใจเมตตากับผมมาตลอด ต้องทนรำคาญใจไม่สบายใจไปสักพักหนึ่ง เพราะว่าอีกไม่นานความจริงก็จะปรากฏขึ้นในการต่อสู้คดีในศาลฎีกา ส่วนคนที่คิดร้ายกับผม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเก่ากลุ่มใหม่ผมไม่ติดใจอะไรให้เขาลิงโลดยินดีไปสักพัก ผมก็ได้แต่ปลง เพราะว่าก่อนหน้านี้ก็มีคนพยายามมาบอกให้ผมไปกราบไหว้วิงวอนใครบางคน ผมก็มาคิดว่าผมทำงานการเมืองมาตลอดเวลา ผมก็มีศักดิ์ศรี ผมไม่ใช่สุนัข เพราะฉะนั้นผมตั้งใจอย่างเดียวว่าถ้าเพื่อประชาชนแล้วให้ผมทำอะไรผมก็ทำได้ แต่ว่าจะไปขอความเมตตาจากคนที่คิดว่ามีอำนาจแล้ว แต่ผมเลือกที่จะพิสูจน์ศักดิ์ศรี ด้วยการนำความจริงทั้งหมดไปสู้คดีในศาลฎีกา ผมจะไม่หลบหนีไปไหน เตรียมตัวที่จะสู้คดี เพราะฉะนั้นใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็แล้วแต่ ผมขออนุญาต เรียนชี้แจงว่า เวลาอีกไม่นานก็จะรู้ความจริง ความจริงตั้งใจจะไม่พูดอะไรในวันนี้ แต่รู้ว่าพี่น้องประชาชนมีสิทธิได้รับคำชี้แจ้ง”นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาในการก่อสร้างโรงพัก นายสุเทพ กล่าวว่า ให้รอฟังรายละเอียด และขอให้สื่อระมัดระวังในการนำเสนอข่าว เพราะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงมาก ซึ่งตนอาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิทางกฎหมาย สื่อต้องดูว่าข่าวนั้นใครเป็นคนพูดและพูดว่าอย่างไร

ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่ามีการชี้มูลหรือไม่ ทั้งคดีก่อสร้างโรงพักทดแทน และชี้มูลความผิด คดีโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงานยังไม่แล้วเสร็จ แต่หาก ป.ป.ช.มีมติชี้มูลจะต้องส่งอัยการภายใน 30 วัน โดยอัยการจะต้องฟ้องต่อศาลคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใน 180 วัน แต่ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าสำนวนที่ ป.ป.ช.ที่ส่งไปไม่สมบูรณ์ ก็ต้องแจ้งกลับมาจัดตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากศาลรับไว้พิจารณาจึงจะหยุดปฏิบัติหน้าที่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า