วันที่ 24 ก.ค. ที่จุดรับซื้อน้ำยาง บ้านหน้าเขา หมู่ 17 ตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ชาวสวนยางยังกรีดยางและน้ำยางไปส่งขายยังจุดรับซื้อ แม้ราคายางพาราตกต่ำและอยู่ในช่วงฤดูฝนจึงต้องกรีดยางแข่งกับฝน โดยขณะนี้ราคาน้ำยางกิโลกรัมละ 38-40 ซึ่งชาวสวนยางมองว่าปัญหาเกิดจากปัญหาจากการบริหารงานของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
นายมณเทียร แสงเสน อายุ 52 ปี กล่าวว่า ตนเองมีสวนยางพารา 13 ไร่ กรีดยางเองลงกรีดตั้งแต่เที่ยงคืน เก็บน้ำยางประมาณ 7 โมงเช้า รายได้ต่อวันตกประมาณวันละ 400 ยังไม่พอในการเลี้ยงครอบครัว ถ้าเทียบกับตอนราคายางพารา กิโลกรัมละ 60 ยังพอจุนเจือครอบครัวได้ แต่ตอนนี้พอราคาตกเหลือกิโลละ 40 บาท รายได้ก็ต้องลดลง จึงทำให้การเป็นอยู่ของครอบค่อนข้างที่ลำบากเพราะรายจ่ายมากกว่ารายรับ จึงขอฝากถึงรัฐบาลที่เคยบอกไว้ว่าจะขึ้นราคายางพาราให้กิโลกรัมละ 60 บาท ให้ทำตามสัญญาที่บอกไว้ข้างต้นด้วย
ด้านชาวสวนสวนยาง คนอื่นๆ ระบุว่า ราคายางพาราก็ตกลงมาเรื่อย เกือบจะถึง กิโลกรัม 35 บาท หรือ 3 โล 100 และยังไม่แน่ใจว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาทำงาน จะทำให้ราคายางพาราขึ้นตามที่สัญญาไว้หรือไม่ โดยราคาชาวสวนยางอยากได้และพอจะช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนได้บ้าง คือการประกันราคาน้ำยางสด ที่กิโลละ 60 บาท หากต่ำกว่านี้จะช่วยเหลือชาวสวนยางพาราไม่ได้ ส่วนที่รัฐบาลจะใช้มาตรการชาวเหลือชาวสวนยางพาราและคนกรีด เฉพาะสวนยางพาราที่ขึ้นทะเบียนถือว่ารัฐบาลแทบที่จะไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่ เพราะชาวสวนจำนวนมากเข้าไม่ถึงสิทธิ์ความช่วยเหลือดังกล่าว
ทั้งนี้ นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ กำหนดราคายางพารา 65 บาทต่อกิโลกรัม
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกันรายได้เกษตรกร ยางพาราไม่ต่ำกว่า 60 บาทต่อกิโลกรัม