‘สมพงษ์’ เปิดฉากอภิปรายคุณสมบัตินายกฯ ระบุ 7 ประเด็นไม่เชื่อมั่นรัฐบาลประยุทธ์ 2

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำทีมฝ่ายค้ายเปิดฉากอภิปรายนโยบายรัฐบาล จี้ประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐขาดคุณสมบัติเป็นนายกฯ  ไม่เชื่อมั่นรัฐบาบประยุทธ์ 2 

วันที่ 25 ก.ค.2562  เวลา 12.00 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำอภิปรายนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สาระสำคัญตอนหนึ่งระบุว่า ไม่มั่นใจและไม่เชื่อมั่นต่อการนำนโยบายรัฐบาลไปปฏิบัติรวมถึงกังวลว่าภายใต้การบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ และทีมเศรษฐกิจที่เป็นชุดเดิมเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาจะทำให้ประเทศไปสู่ความล้มเหลวแบบหายนะ ขณะที่คุณสมบัตินายกฯ เป็นหัวหน้า คสช. ไม่เห็นว่าจะใช้ประโยชน์อะไรที่บอกว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะมีเงินเดือนและมีคำสั่งออกมามากมาย หากผู้ไม่ปฏิบัติตามก็มีความผิดตามกฎหมาย  นโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลที่ผ่านมานั้นล้มเหลว ประชาชนรวยกระจุกจนกระจาย ส่วนการขาดดุลเพิ่มสูงขึ้นทุกปี รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่สูงเป็นประวัติการณ์ เพราะเศรษฐกิจไทยตกต่ำจนอยู่ลำดับท้ายๆ ของอาเซียน โดยหนังสือพิมพ์ต่างชาติขนานนามไทยว่า “ผู้ป่วยของเอเชีย”

“ผมไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะนำนโยบายที่เสนอในวันนี้ ไปแก้ไขปัญหาประเทศได้ ส่วนสำคัญคือนายกฯ และรัฐมนตรี ที่สำคัญรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยแกนนำของรัฐบาลชุดนี้มีความสำคัญ จากการติดตามของสื่อมวลชน ประชาชน และต่างประเทศ พูดจากัน และค่อนข้างมั่นใจว่าหลายคนไม่เชื่อมั่นรัฐบาลชุดนี้ ความไม่เชื่อมั่นภายใต้การนำของนายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนเดิม หน้าเดิมๆ ที่ล้มเหลวมาแล้วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะนำประเทศไปสู่หายนะ มืดมน และอันตรายสู่ประชาชน ผมเป็นห่วงประเทศชาติและอนาคตลูกหลาน หากนโยบายถูกนำไปดำเนินการโดยกลุ่มบุคคลที่ขาดความชอบธรรมและคุณสมบัติในการบริหารประเทศ”

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เศรษฐกิจไม่ดี ขายของไม่ได้ โรงงานอุตสาหกรรมก็หยุดนิ่ง ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติไม่สนใจมาลงทุน และรัฐบาลไม่ได้ช่วยเหลือเศรษฐกิจรากหญ้าจนเกิดความเหลื่อมล้ำ โดยปี 2016 คนไทยรวยที่สุด 1% (6.7 หมื่นคน) แต่ 2018 กลุ่มนี้ครอบครองทรัพย์สิน 2 ใน 3 ของประเทศ  นอกจากนี้กองทัพมีการใช้งบประมาณเกินขอบเขต โดยต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสม แบ่งบางส่วนมาใช้กับการค้าการลงทุนบ้าง พร้อมอภิปรายอีก 7 ข้อ เช่น นายกฯ เข้าสู่อำนาจโดยขาดความชอบธรรม, ล้มเหลวบริหารเศรษฐกิจ, บิดเบือนกลไลกฎหมายช่วยพวกพ้อง, ขณะนี้ยังเป็นประชาธิปไตยครึ่งเผด็จการ