SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีที่มีข่าวและเผยแพร่ในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการติดเชื้อ และมีอาการรุนแรงจนเกิดโรคเนื้อเน่า (Necrotizing fasciitis) หรือเรียกอีกอย่างว่าโรคแบคทีเรียกินเนื้อ (Flesh-eating disease) นั้น ในหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ในช่วงฤดูฝนนี้ จนมีผู้ป่วยจำนวนมาก และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้แล้วนั้น

 

ข้อมูลจากภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า โรคเนื้อเน่า หรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียและก่อให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงที่ผิวหนัง โดยมีการแพร่กระจายไปยังชั้นเนื้อเยื่ออ่อนใต้ผิวหนัง เนื้อเยื่อไขมัน เนื้อเยื่อพังผืด รวมถึงกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อในบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ และอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายจนเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ โรคนี้เป็นโรคที่มีรายงานอุบัติการณ์หรือการเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ถ้ามีอาการเกิดขึ้นหรือเป็นโรคนี้แล้ว ย่อมส่งผลเสียและเป็นอันตรายอย่างมากต่อตัวผู้ป่วย

 

สาเหตุของการเกิดโรค

โรคเนื้อเน่าหรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียเพียงชนิดเดียวหรือหลายชนิดร่วมกัน แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ เชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Group A streptococci) เชื้อเคล็บเซลลา (Klebsiella) เชื้อคลอสตริเดียม (Clostridium) เชื้ออีโคไล (E. coli) เชื้อสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) และ แอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา (Aeromonas hydrophila) โดยพบว่าเชื้อที่เป็นสาเหตุที่สำคัญคือ เชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Group A streptococci) แต่เชื้อที่มีความรุนแรงคือ แอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา (Aeromonas hydrophila)

 

อาการของโรค

ในระยะแรกของการติดเชื้อ จะเกิดอาการ เจ็บ ปวด บวม แดง ร้อนที่ผิวหนังอย่างรวดเร็ว โดยอาการที่ปวดมากมักไม่สัมพันธ์กับบาดแผลที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ผิวหนังบริเวณบาดแผลมีสีคล้ำ ม่วง ดำ หรือมีถุงน้ำเกิดขึ้น และเกิดการตายของเนื้อเยื่อในบริเวณนั้น ตำแหน่งที่เกิดโรคส่วนใหญ่คือบริเวณขาและเท้า ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นตามมาคือ การช็อคจากการติดเชื้อในกระแสเลือด เบาหวาน และภาวะไตวาย

 

บุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรค

ผู้ที่มีบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ เช่นมีดบาด ตะปูตำ สัตว์กัดหรือข่วน แล้วไม่มีการทำความสะอาดบาดแผล หรือทำความสะอาดบาดแผลอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มดังกล่าว จนเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง

ผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานโรคไม่ดี เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคอ้วน ภาวะไตวาย หลอดเลือดผิดปกติ มะเร็ง ผู้สูงอายุที่ได้เคมีบำบัด ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน และผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ เป็นต้น

 

การวินิจฉัยและรักษาโรค

ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยรักษาอย่างเร่งด่วน โดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงการผ่าตัดนำส่วนเนื้อเยื่อที่มีการตายออก และการให้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อยับยั้งการติดเชื้อที่อาจลุกลามเพิ่มขึ้น และป้องกันการดื้อยาของเชื้อที่เป็นสาเหตุ

 

การดูแลป้องกันโรค

ระวังอย่าให้มีบาดแผลเกิดขึ้น ถ้ามีบาดแผลเกิดขึ้นไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่จากสาเหตุใดๆ ก็ตาม เช่นถูกของมีคมข่วน ตำ แทง บาด หรือถูกสัตว์เลี้ยงข่วนหรือกัด อย่าชะล่าใจโดยเด็ดขาด ควรทำความสะอาดทันทีโดยใช้น้ำสะอาด สบู่ หรือแอลกอฮอล์ 70% ทำความสะอาดบริเวณรอบบาดแผล และใส่ยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม เช่น โพวิโดนไอโอดีน ที่บาดแผล ห้ามใช้ยาผงโรยใส่แผลโดยตรง และควรสังเกตว่าบาดแผลนั้นลึกหรือไม่ ถ้าลักษณะของบาดแผลรวมถึงสิ่งที่ทำให้เกิดบาดแผลนั้น มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นแหล่งของเชื้อโรค ควรปรึกษาแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและป้องกันการติดเชื้อ

 

นอกจากนี้ การรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ฝึกให้มีสุขลักษณะที่ดี เช่น หมั่นล้างมือบ่อยๆ รักษาความสะอาดของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงถ้ามีอาการผิดปกติภายหลังการเกิดบาดแผล เช่น มีไข้ ปวด บวมบริเวณบาดแผลเพิ่มมากขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที และควรดูแลบุคคลที่มีบาดแผลโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีภาวะภูมิต้านทานโรคไม่ดี ก็จะเป็นการป้องกันทั้งตนเองและผู้อื่นจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเนื้อเน่าหรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อได้

 

ที่มา: https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/371/โรคเนื้อเน่า(Necrotizingfasciitis)/

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า