เครือข่ายต้านพนันชี้ “สลาก 12 นักษัตร” ไม่แก้หวยใต้ดิน 2 ส.ค. บุกทำเนียบฯจี้ทบทวน

เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ชี้ “สลาก 12 นักษัตร” ไม่แก้หวยใต้ดิน แนะศึกษาผลกระทบสังคมก่อนเข้าครม. พร้อมเผย “สลากใหม่” ทำเงินเข้ารัฐเพิ่มแน่นอน จากส่วนแบ่งตามกฎหมาย 23 % ของรายได้ 

จากกรณีมติกองสลากฯ เตรียมออกสลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบใหม่ เป็นสลากภาพ 12 นักษัตร ลุ้น 4 ภาพ ราคา 50 บาทขายผ่านทางออนไลน์ พร้อมจำกัดผู้ซื้ออายุต้องไม่ต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งเตรียมส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้โอกาสสัมภาษณ์ข้อดีข้อเสียในมุมมองของ ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ที่เกาะติดผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ของกองสลากฯ มาโดยตลอด ว่า สลากภาพ 12 นักษัตร เป็นนวัตกรรมในการนำสลาก 3 ประเภทมารวมเป็นหนึ่งเดียว หรือ ทรีอินวัน (3in1) คือ 1.สลากทายภาพสัตว์ที่ชาวบ้านเล่น 2.สลากล็อตโต้ (Lotto) คือสลากที่กำหนดเลขที่ตัวเองทายได้ตามจำนวนช่องที่เปิดให้เล่น 3. หวยใต้ดิน มีเต็ง มีโต๊ด สลับหลักได้ ทายถูกเลขแต่ไม่ถูกหลักก็สลับหลักได้

(ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน)

นายธนากร กล่าวว่า มองให้เป็นกลางๆ ถามว่า การพนันตัวนี้ มีผลกระทบหรือไม่ มีผล แต่ว่าอยู่ในเงื่อนไขของความที่ยังไม่เป็นการพนันอย่างเข้มข้นมากนัก จะดูว่าเป็นการพนันที่เข้มข้นหรือไม่ ดูที่ความง่าย ความถี่ ซึ่งสลาก 12 นักษัตรเล่นง่าย เพราะขายผ่านแอพพลิเคชั่น กระตุ้นอยู่บ้างเพราะมีรางวัล ถ้าเทียบกับหวยใต้ดินรางวัลจะสูงกว่า แต่ยังมีความรู้สึกไม่มั่นใจของผู้เล่น เพราะรางวัลต้องแบ่ง คนเล่นไม่รู้ว่างวดนั้นจะมีคนเล่นกี่คน ตัวกระะตุ้นอาจมีบ้างแต่ไม่แน่นอน

ส่วนความดีของการออกสลากไทย คือความถี่ เพราะบอกว่าจะออกแค่ 2 ครั้ง ในวันที่ 1 และ 16 เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือว่าดี ไม่ทำให้การเล่นมีความถี่เกินไป และไม่ไปออกในสัปดาห์ที่สลับกับสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะฉะนั้นคนเล่นหวยต้องเล่นในวันเดียวกัน ถือว่า เป็นจุดที่ทำให้สลากตัวนี้ ยังไม่มีผลกระทบจนน่ากังวลมากจนเกินไป ตรงนี้คือไม่ทำร้ายสังคม เป็นเอกลักษณ์ที่ดีก็ขอให้รักษาไว้

แต่ถามว่ามีผลกระทบหรือไม่ มี เพราะว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่เติมเข้ามา ก็จะทำให้คนมีโอกาสเล่นพนันมากขึ้น จริงๆ ถ้าจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ควรจะมีข้อพิจารณาว่า แล้วจะลดผลิตภัณฑ์ตัวเก่าลงขนาดไหนที่จะไม่ทำให้คนมาเล่นพนันเพิ่มขึ้น น่าจะเป็นความรับผิดชอบของสำนักงานสลากฯ ว่าโดยแนวนโยบายของรัฐไม่ควรที่จะส่งเสริมให้ประชาชนเอาเงินมาใช้ในการเสี่ยงโชคเล่นพนันเกินจำนวนเท่าไหร่ ควรจะมีตัวเลข ถ้าจะเพิ่มตัวใหม่ควรจะลดตัวเก่าเพื่อไม่ให้เป็นการดูดเงินออกจากครัวเรือนมากเกินไป

“อย่าลืมว่า อย่างไรก็ตามวิธีนี้ไม่ได้ช่วยให้หวยใต้ดินหายไป อาจจะแบ่งส่วนแบ่งมาได้บางส่วน แต่อย่าลืมว่าหวยใต้ดินมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เขาก็ออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาแข่งกับท่านได้ หรือออกมาแจมด้วยกันได้ เจ้ามือหวยใต้ดินเขาอาจสบช่องออกหวยสัตว์มาแข่งกับท่าน ออกแบบวิธีการเล่นให้ง่ายกว่า ให้มีแรงจูงใจที่มากกว่าก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่ได้หมายความว่า ออกตัวนี้มาแล้ว จะทำให้หวยใต้ดินได้รับผลกระทบอย่างมาก อาจจะไม่แน่ เขาอาจจะสบช่องออกมาด้วยกันเพราะไม่เป็นคู่แฝดกันอยู่แล้ว

นายธนากร บอกด้วยว่า ตอนนี้มีสารพัดหวยที่กลายเป็นกระแส รวมทั้งหวยต่างประเทศด้วย เพราะฉะนั้นเหตุผลที่ว่า ออกผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาแล้วจะไปแก้สารพัดหวยที่อยู่ใต้ดินมันแก้ไม่ได้ ทำไปทำมากลายเป็นส่งเสริม ทำให้เกิดการเล่นพนันที่มากขึ้น เพิ่มการพนันชิ้นใหม่เข้ามา โดยมองว่า ถ้าในส่วนที่รัฐบาลรับผิดชอบต้องควบคุมตัวเองไม่ให้เยอะเกินไป ส่วนหวยใต้ดินเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตำรวจ มหาดไทยต้องไปจัดการ จะหวังว่า หวยตัวนี้ออกมาแก้หวยใต้ดินเป็นคนละเรื่อง แต่จะเป็นแบบตัวเก่ายังคงเล่น เพราะมีความคุ้นเคย รางวัลใหญ่ อาจจะมีคนจำนวนหนึ่งที่เล่นทั้งสองอย่างและเล่นมากขึ้น

สมมุติ 50 บาท วิธีเล่นง่ายๆ หยิบภาพมาเรียงกันมีความเป็นไปได้สูง ที่คนหนึ่งคนจะไม่เล่นเพียงแบบเดียว แต่จะกระจายความเสี่ยงกลายเป็นเขาเล่นมากกว่า 50 บาทแน่นอน เท่าที่เห็นเขาไม่จำกัดการทาย แต่ละคนทายกี่แบบก็ได้ แต่ถ้าถามว่ารัฐบาลจะจำกัดได้หรือไม่ “จำกัดได้” ก็สามารถจะตั้งหมายเลขบัตรประชาชนคนนี้แทงได้เท่าไหร่ ถ้าจะทำ ทำได้ แต่ดูเหมือนตรงนี้จะไม่ได้ทำ

ออกสลากใหม่รายได้เข้ารัฐบาลมากขึ้น

เลขาฯ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน บอกว่า ถ้าดูจากตัวเลขที่สำนักงานสลากฯ แถลงเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ประมาณการณ์ว่า จะแชร์เงินจากหวยใต้ดินมาได้ 100,000 ล้านบาทต่อปี หรือเดือนละ 1,000 ล้านบาท ถ้าตัวเลขที่ 100,000 ล้านบาท รัฐบาลจะได้ส่วนแบ่ง ตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 23 % คือประมาณ 23,000 ล้านบาท

จะทำให้รายได้เข้ารัฐจากกิจการสลากจาก 40,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 60,000 ล้านบาท หรืออาจถึง 70,000 ล้านบาท ซึ่งทุกครั้งที่จะพิมพ์สลากเพิ่มหรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยข้อกำหนดทางกฎหมายจะทำให้มีเงินเข้ารัฐมากขึ้นอยู่แล้ว เพราะรัฐกินส่วนแบ่ง 23 % ตลอดเวลา

สำหรับขั้นตอนหลังจากที่บอร์ดกองสลากฯ มีมติเรื่องผลิตภัณฑ์แล้ว จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี นายธนากร เห็นว่า ตอนนี้ขั้นตอนที่ดูเหมือนจะไม่ถูกพูดถึงคือ การศึกษาผลกระทบทางสังคม

ซึ่งถูกระบุในตัวกฎหมาย พ.ร.บ.สลากฯ ฉบับแก้ไข 2562 ที่ระบุว่า ถ้าจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะต้องศึกษาผลกระทบทางสังคม รับฟังความเห็นผู้มีส่วนเเกี่ยวข้อง และผ่านเป็นมติครม. แต่เท่าที่เห็นดูเหมือนจะไปรับฟังความเห็นเลย ภายใน 3-6  เดือนนี้ อยากเสนอให้มีการทำขั้นตอนศึกษาผลกระทบทางสังคม โดยคณะบุคคลที่เป็นกลางไม่เอนเอียง แล้วจึงนำไปผ่านการรับฟังความเห็น ก่อนให้ ครม.พิจารณาว่าจะผ่านหรือไม่

“เราขอให้ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะ ครม.ลงมติอนุมัติจะเป็นข้อผูกพันเป็นความรับผิดชอบ กฎหมายได้ออกแบบไว้อย่างรอบคอบแล้ว ถ้าครม.ตัดสินใจแล้วฝืนกับข้อมูลทั้งสองส่วนนี้ ก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของครม.”

วันพรุ่งนี้ (2 ส.ค. 62) เวลา 10.00 น. เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน พร้อมด้วยเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากฯกว่า 30 คน จะเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายพชร อนันตศิลป์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านทางศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล (ฝั่ง ก.พ.ร.) เพื่อแสดงจุดยืนและข้อห่วงใยต่อนโยบายออกสลากออนไลน์แบบ 12 นักษัตร

นอกจากนี้ เครือข่ายยังขอให้ทบทวนการเพิ่มสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกมามากถึง 100 ล้านฉบับ (จากเดิม 37 ล้านฉบับ) พร้อมจะแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ชุด “สลาก 12 นักษัตร+สลากฯ 100 ล้านฉบับ = ปัญหาสังคมเพิ่ม ได้ไม่คุ้มเสีย”

ขอบคุณภาพประกอบ FB: สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

อ่านข่าวย้อนหลัง

เคาะเสนอสลาก 12 นักษัตร หวังลดปัญหาหวยใต้ดิน