SHARE

คัดลอกแล้ว

ไม่ถึงกับเป็นกฎตายตัว แต่คนไทยหลายคนอาจมีภาพจำในหัวว่า “หนังรางวัล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังจากเทศกาลหนังเมืองคานส์จะต้องเป็นหนังที่ดูยาก หัวสูง ต้องปีนกระไดดูเท่านั้นถึงจะเข้าใจ 

แต่ถ้าใครได้ตีตั๋วรับชม Parasite หนังสัญชาติเกาหลีใต้ของผู้กำกับ บงจุนโฮ เจ้าของรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d’Or) รางวัลใหญ่สุดของเทศกาล ก็จะพบว่าหนังไม่ได้ดูยากแต่อย่างใด แถมมาพร้อมกับความบันเทิงเต็มรูปแบบราวกับเป็นหนังบล็อคบัสเตอร์เรื่องหนึ่งที่ทุกคนคุ้นชิน  และหลังเข้าฉายไปเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมจนถึงตอนนี้ กระแสตอบรับ Parasite ในบ้านเราต่างออกมาเป็นบวก หนังได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง มีคนแห่ดูกันเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนโรงฉายจุ๋มจิ๋ม จนสามารถเก็บรายได้เกิน 10 ล้านบาทแล้ว 

ตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่น้อยเลยเมื่อพิจารณาว่า แม้วัฒนธรรมบันเทิงจากเกาหลีใต้จะได้รับความนิยมในไทย แต่หนังอาจไม่ได้รับความนิยมมากขนาดนั้น ครั้งสุดท้ายที่ผู้คนแห่ไปดูและพูดถึงอย่างคึกคักต้องย้อนกลับไปตอน Train to Busan (2016) หนังซอมบี้ระทึกขวัญเข้าฉายแล้วกวาดเงินไปเกือบ 75 ล้านบาท จริงๆ แล้วก็ไม่น่าเซอร์ไพรซ์หากหนังรางวัลอย่าง Parasite จะกลายเป็นขวัญใจมหาชน เพราะดังที่กล่าวไป หนังมาพร้อมความบันเทิง ความสนุกสนานตื่นเต้น และที่สำคัญคือดูง่ายเข้าใจง่าย หนังมาพร้อมกลวิธีด้านภาพยนตร์ที่เนี้ยบและเฉียบทั้งการเล่าเรื่อง การเร้าอารมณ์ การถ่ายทำ การตัดต่อ การออกแบบงานสร้าง ทุกองค์ประกอบต่างสอดประสานกัน ช่วยให้หนังน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ

แถมประเด็นหลักของหนังที่ว่าด้วยชนชั้น ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนยังมีความเป็นสากลซึ่งสามารถเข้าใจได้ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน แม้หนังจะนำเสนอความแตกต่างราวฟ้ากับเหวระหว่างคนรวยและคนจนที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่จากสภาพสังคมของประเทศไทยในปัจจุบัน ก็น่าจะทำให้คนดูเกิดอารมณ์ร่วมได้ไม่ยาก ราวกับกำลังมองดูชีวิตของตัวเองบนจอใหญ่ ความยอดเยี่ยมของหนังด้วยประการทั้งปวง ไม่น่าแปลกใจหากใครต่อใครจะเริ่มคาดการณ์กันแล้วว่า Parasite น่าจะเป็นตัวเต็งรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมครั้งล่าสุดแน่นอน แม้เกาหลีใต้ยังไม่ได้ประกาศส่งหนังเรื่องนี้เป็นตัวแทนประเทศอย่างเป็นทางการ และยังเหลืออีกตั้งหลายเดือนกว่าจะถึงฤดูล่าตุ๊กตาทอง

ถึงกระนั้น การได้รางวัลสูงสุดจากเทศกาลหนังเมืองคานส์มาครองน่าจะการันตีว่า Parasite จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนประเทศ เข้าไปชิงรางวัลออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมแน่ๆ เฉกเช่นหนังปาล์มทองคำเรื่องอื่นๆ ที่เคยได้รับเกียรติ อาทิ Shoplifters ตัวแทนประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีก่อน และถ้าได้รับเลือกจริงๆ Parasite จะเป็นหนังเรื่องที่ 2 ของผู้กำกับ บงจุนโฮ ที่ได้รับเกียรตินี้ หลังจาก Mother (2009) หนังดราม่าว่าด้วยแม่ที่ต้องการช่วยลูกชายให้หลุดพ้นจากคดีฆาตกรรมเคยได้รับโอกาสนั้นมาก่อน แม้ว่าสุดท้ายหนังจะไม่ติด 5 รายชื่อสุดท้ายก็ตาม

แดนกิมจิถือเป็นแหล่งผลิตหนังดีๆ ส่งออกสู่ระดับอินเตอร์มาตลอด มีผู้กำกับหลายคนทำหนังส่งไปฉายตามเทศกาลใหญ่ๆ จนมีชื่อเสียงทั่วโลก อาทิ คิมคีด็อก (Spring, Summer, Fall, Winter… and Spring,  2003), พัคชานอุค (Oldboy, 2003), คิมจีวุน (A Tale of Two Sisters, 2003), ฮองซานซู (Right Now, Wrong Then, 2015), อีชางดอง (Burning – 2018), นาฮงจิน (The Wailing, 2016) รวมทั้ง บงจุนโฮ เอง ซึ่งนี่เป็นเพียงชื่อของผู้กำกับและหนังชั้นยอดเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น  แต่เส้นทางบนเวทีออสการ์กลับน่าฉงนยิ่งนัก เมื่อเป็นหนังเกาหลีใต้กลับไม่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมเลย! (เป็นไปได้อย่างไรกัน!?) จะมีเพียง Burning (2018) ของผู้กำกับ อีชางดอง ที่เฉียดรางวัลนี้มากที่สุด โดยทะลุเข้าไปติด shortlist 9 เรื่องสุดท้าย แต่ก็ต้องพลาดการเข้าชิงไปอย่างน่าเสียดาย

Parasite จึงกลายเป็นความหวังใหม่ของชาวประชา ว่าจะสามารถทำลายอาถรรพ์ดังกล่าวลงเสียที ซึ่งจากคุณภาพตัวหนัง รวมถึงความเป็นขวัญใจนักวิจารณ์และมหาชนอย่างเอกฉันท์ หากหวยไม่พลิกหรือสวรรค์กลั่นแกล้งจนเกินไปก็เป็นไปได้สูงว่า กรรมการออสการ์เองน่าจะรักและเอ็นดูหนังมากเช่นเดียวกันกับมวลชนทั่วโลก จนหากได้เข้าชิงและได้รางวัลหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่น่าเซอร์ไพรซ์  การที่หนังภาษาต่างประเทศสักเรื่องจะได้รับเกียรติขั้นสูงเช่นนี้ถือว่าเลอค่ามากแล้ว แต่ความร้อนแรงของ Parasite อาจไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะด้วยความยอดเยี่ยมของหนังในหลายภาคส่วน ทำให้อาจมีสิทธิ์เข้าชิงออสการ์สาขาอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม รวมถึงรางวัลใหญ่สุดอย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งหลายสาขาสามารถเป็นผู้ชนะได้เลยเช่นกัน

แต่ข้อน่ากังวลก็คือ ที่ผ่านมาหนังที่มีบทบาทสำคัญในสาขาเหล่านี้มักจะเป็นหนังฮอลลีวู้ด หนังอเมริกา อาจมีหนังประเทศอังกฤษสอดแทรกเข้ามาบ้าง แต่สุดท้ายหนังพูดภาษาอังกฤษก็จะมีภาษีดีกว่า ผูกขาดรางวัลใหญ่เสมอ โอกาสจะมีหนังต่างประเทศหลุดเข้าไปแย่งซีนเจ้าถิ่นจึงค่อนข้างยาก แต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตัวอย่างล่าสุดก็คือ Roma (2018) หนังขาวดำย้อนยุคสัญชาติเม็กซิโก-พูดภาษาสเปน ของผู้กำกับ อัลฟองโซ กัวรอง ซึ่งเข้าฉายไปเมื่อปีก่อนแล้วได้เสียงวิจารณ์ดีเยี่ยม ได้เข้าชิงออสการ์ทั้งสิ้น 10 สาขา และคว้ามาครองถึง 3 รางวัล ได้แก่ หนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม 

น่าเสียดายที่หนังชวดรางวัลใหญ่ให้กับหนังอเมริกา “ฟีลกู้ด” อย่าง Green Book โดยหลายคนมองว่าเป็นการแพ้แบบค้านสายตา  ขึ้นชื่อว่าหนังดี จะเป็นหนังภาษาอะไรก็สามารถเป็นหนังดีควรค่าแก่รางวัลได้ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามบนเวทีออสการ์กลับมีกำแพงสูงใหญ่นี้คอยกวางกั้นหนังภาษาต่างประเทศไม่ให้ก้าวข้ามไปได้ แต่ใครจะไปรู้ Parasite ซึ่งทำลายกำแพงทางความคิดของใครหลายๆ คนว่าหนังรางวัลปาล์มทองคำ-หนังเมืองคานส์จะต้องดูยากมาแล้ว อาจอาศัยแต้มต่อดังกล่าวมาทลายปราการนี้ได้อีกครั้ง ทำให้คณะกรรมการตระหนักว่า ความดีงามของหนังไม่ได้ผูกติดอยู่กับภาษาและสัญชาติเสียที  แต่สุดท้ายผลรางวัลจะออกมาเป็นเช่นไร เรายังเหลือเวลาอีกหลายเดือนให้ลุ้นกันยาวๆ เวลาที่เหลือนับจากนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ มีหนังเสียงชื่นชมหนาแซ่ซ้อง โผล่มาเป็นตัวเต็งออสการ์ตั้งแต่ช่วงกลางปี แต่กลับยืนระยะไม่ถึงฤดูล่ารางวัลถมไป โอกาสที่ Parasite จะตกสำรวจก็เป็นไปได้เสมอ (ซึ่งก็หวังว่าคงไม่เป็นอย่างนั้น)   แต่ถึงหนังจะชวดรางวัลจริงๆ ก็ไม่อาจเปลี่ยนข้อเท็จจริงได้ว่า Parasite คือหนังดีที่ดูง่าย และควรค่าแก่การจดจำ

บทความโดย ปารณพัฒน์ แอนุ้ย

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า