SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 5 ส.ค. ที่ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวน 2 ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ และทราบว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกกว่า 10 คน ต้องจับให้ได้ และยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง

“การกระทำดังกล่าว ผมอยากจะเรียกว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย เพราะมันเกิดในที่ใดก็ตามก็มีปัญหาหมด ไม่ควรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยโดยเฉพาะเวลานี้ ใครที่ทำหรือเกี่ยวข้อง แม้ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นใครก็ถือว่าใจร้าย ใจดำ ทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายในขณะที่เดินหน้าอยู่ในขณะนี้ ในการเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย”

เมื่อถามถึงเรื่องการบูรณาการกล้องวงจรปิดของหน่วยงานต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ครั้งนี้ต้องชื่นชมที่กล้องทุกตัวสามารถใช้งานในการตรวจสอบได้จนกระทั่งพบความเชื่อมโยงหลายกลุ่มด้วยกัน  ส่วนความคืบหน้าทางคดีจะให้ทางตำรวจเป็นผู้ชี้แจงไปตามขั้นตอน ตนอยากให้การเกิดเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการบูรณาการทั้งการทำงาน การให้ข่าว การพิสูจน์หลักฐาน

ถามต่อว่า ได้กำหนดกรอบเวลาเจ้าหน้าที่ในการทำคดีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ไปบังคับอย่างนั้นไม่ได้ ประเทศไทยมีตำรวจประมาณ 2-3 แสนคน ถ้าเทียบกับประชากรทั้งหมดต้องช่วยกัน เช่น การเฝ้าระวัง แบ่งเบาภาระตำรวจ ช่วงสังเกต ถ่ายรูป เหมือนมีกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก 10 กว่าล้านกล้องไม่ดีกว่าเหรอ

ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐ เคยหาเสียงว่า เลือกความสงบจบที่ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นคนพูด ช่วงนั้นตนยังเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พยายามไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องการเลือกตั้งด้วย

สำหรับกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลทำเองเพื่อกลบกระแสบางเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า คุณต้องมองประเด็นใหญ่ว่าประเทศไทยทำอะไรอยู่ เรามีการประชุมอาเซียน มีประเทศมหาอำนาจมาด้วย ใครจะทำแบบนั้นตนอยากจะรู้ คนที่ทำต้องการให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือในเวทีต่างประเทศ ขอให้มองในมุมนี้บ้าง รัฐบาลจะสร้างสถานการณ์เองทำไม ตนอยู่ดีๆ ไม่ดีกว่าหรือ คิดให้มีตรรกะหน่อย

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้เร่งพิสูจน์ทราบและจับกุมคนร้ายที่พยายามสร้างสถานการณ์ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมขยายผลผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยได้กำชับให้ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพยึดหลักกฎหมายระเบียบข้อบังคับสามารถตรวจสอบได้และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง

ส่วนสถานการณ์แม้ว่าอยู่ภายใต้การควบคุมหมดแล้ว แต่ยังคงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อเป็นการเฝ้าระวังความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น และนายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือประชาชนช่วยเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัย จากลักษณะที่พบจากกล้องวงจรปิด จะเห็นว่ามีการสวมใส่หน้ากากคนป่วยเพื่ออำพราง แต่อาจจะไม่ได้ป่วยจริง สวมแว่นดำ หรือหมวกเพื่อปกปิดใบหน้า หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า