“ศักดิ์สยาม” ให้ยืดอายุรถตู้เก่าอีก 2 ปี – ไม่บังคับเปลี่ยนไมโครบัส

วันที่ 9 ส.ค. ที่กระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประชุมหารือแนวทางการให้บริการของรถตู้โดยสารสาธารณะ ร่วมกับตัวแทนกลุ่มรถตู้โดยสารสาธารณะ โดยมีข้อสรุปว่า

1. การเปลี่ยนรถตู้โดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 รถที่วิ่งในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่องเป็นรถโดยสารขนาดเล็ก (มินิบัส) ให้เป็นการสมัครใจ จากเดิมที่กรมการขนส่งทางบกมีนโยบายให้ปรับเปลี่ยนจากรถตู้เป็นไมโครบัส แต่จะต้องทดแทนรถตู้เก่าโดยไม่เพิ่มรถใหม่ และรถต้องมีคุณภาพ ส่วนการกำหนดให้เปลี่ยนรถจากรถตู้เป็นรถตู้ หรือรถตู้เป็นรถไมโครบัส โดยต้องจดทะเบียนรถตู้ในวันที่ 13 ส.ค. ได้ปลดล็อกให้ขยายเวลาปรับเปลี่ยนโดยไม่จำกัด

2.การปรับเปลี่ยนเมื่อรถหมดอายุครบ 10 ปี ที่ผู้ประกอบการรถตู้ขอเปลี่ยนเป็น 15 ปี นายศักดิ์สยามได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาความเหมาะสม แต่เบื้องต้นให้อยู่ในกรอบเวลาที่ 12 ปีก่อน และรถตู้ที่มีอายุครบ 10 ปี แต่ยังไม่ถึง 12 ปี ให้สามารถนำมาให้บริการได้ แต่ต้องผ่านการตรวจคุณภาพ และให้หารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบกเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย  รวมทั้งไม่ให้เกิดการโกงไมล์ หรือการโกงอายุรถตู้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องความปลอดภัย ให้กรมการขนส่งทางบกไปหามาตรการความปลอดภัยที่รถตู้ต้องทำการบริการ เพราะที่ผ่านมาประชาชนมีข้อกังวลเรื่องการบริการ โดยให้กรมการขนส่งทางบกไปตั้งคณะทำงานความปลอดภัยรถตู้ พร้อมระบุว่าการหารือครั้งนี้ไม่ใช่ข้อยุติ

3. การแก้ไขปัญหาเยียวยาผู้ประกอบการ เนื่องจากเส้นทางทับกับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้งหมด เช่น จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ทับซ้อนกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปพิจารณาหาเส้นทางใหม่ไม่ให้เกิดเส้นทางทับซ้อนจนส่งปัญหาการจราจร โดยให้ไปหารือเรื่องการปรับเส้นทาง และให้หารือเรื่องข้อสรุปจุดจอดภายใน 1 เดือน

4. เรื่องการส่งพัสดุที่ผู้ประกอบการรถตู้ต้องการให้มีการรับ – ส่งพัสดุได้ ให้หารือกับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) เพื่อหาข้อสรุปภายใน 1 เดือน

5. การขอให้ยกเลิกการควบคุมการขับขี่โดยระบบจีพีเอสในรถตู้รับจ้างไม่ประจำทาง ได้ข้อสรุปว่า ให้มีการใช้จีพีเอสเหมือนเดิม และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการร่วมกันทำ Workshop เพื่อพิจารณาว่ามีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพที่จะสามารถกำกับดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนนำมาใช้ทดแทน