กินคางคกแกล้มเหล้าตาย แพทย์เตือนไม่มีวิธีกินให้ปลอดภัย

วันที่ 11 ส.ค. เวลา 11.30 น. ร.ต.อ.สุเทพ กุมภาพันธ์ ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรลานสัก ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนนอนเสียชีวิตคาบ้านหมู่ 2 บ้านห้วยรัง ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากได้รับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยอุทัยธานี (จุดลานสัก)

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากมายืนมุงดูกันหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่หลังเดียว ที่หน้าประตูพบศพชายนอนหงายทราบชื่อผู้ตาย นายดำ ทับเสลา อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง จากตรวจสอบรอบที่เกิดเหตุและภายในบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่พบน้ำลายของผู้ตายไหลนองพื้นที่หน้าประตู หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กู้ภัยนำผู้ตายส่งโรงพยาบาลลานสัก เพื่อให้แพทย์พิสูจน์สาเหตุการตายอีกครั้งหนึ่ง

จากการสอบถาม นายคว้า ทับเสลา อายุ 53 ปี น้องชายของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายก็อยู่บ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียวหลังเลิกกับภรรยา โดยมีพี่สาวนางเขี่ย เป็นคนคอยส่งกับข้าวให้และบ้างครั้งตนเองว่างก็แวะเวียนเข้ามาดู

วันนี้ช่วงสาย ตนเองแวะเข้ามาหาผู้ตายเห็นนั่งปิ้งย่างคางคกมีไข่อยู่บนเตาถ่าน หลังจากนั้น ผู้ตายก็ชวนตนเองกินคางคกแกล้มเหล้า แต่ตนเองปฏิเสธว่าไม่กินและไม่เคยกิน หลังจากนั้นตนเองก็ออกไปทำธุระได้สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากพี่สาวที่แวะเข้ามาดูผู้ตายเห็นนอนอยู่หน้าประตูบ้าน มีน้ำลายฟูมออกมาจากปาก ตนเองจึงรีบมาและได้ช่วยกันนำผู้ตายไปนอนในบ้านหน้าประตูและได้เสียชีวิตต่อมา

นายคว้า น้องชายของผู้ตายกล่าวต่ออีกว่า ผู้ตายนั้นเป็นคนแปลก ชอบกินสัตว์ป่าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นงูหรือสัตว์ต่างๆ บ้างครั้งได้สัตว์อะไรมาถ้ากินไม่ทัน ก็จะแช่ตู้เย็นไว้หลัง โดยเมื่อเปิดตู้เย็นของผู้ตายพบว่าภายในตู้เย็นยังมีซากงูสิง และซากงูจงอางแช่ไว้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีข่าวการเสียชีวิตเพราะกินคางคกอยู่เสมอๆ โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ เคยให้สัมภาษณ์ครั้งเป็น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) ว่า คางคกจะมีต่อมพิษอยู่ใกล้คอเพื่อป้องกันตัวเอง หากรับประทานคางคกเข้าไปแล้วไม่สบาย คลื่นไส้ อาเจียน ถ้ายังมีสติจะต้องทำให้อาเจียนสิ่งที่รับประทานเข้าไปออกมา สำหรับ คางคกไม่มีวิธีการกินให้ปลอดภัย เพราะไม่แนะนำให้กินเด็ดขาด