รัฐบาลยัน ไม่ตัดงบ “บัตรทอง” 680 ล้านบาท มีแต่เพิ่มสิทธิในการรักษา

ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

อย่าเชื่อข่าวปลอม! โฆษกรัฐบาล ยืนยัน ไม่มีการตัดงบโครงการบัตรทอง 680 ล้านบาท โดย ครม.ได้อนุมัติงบกองทุนบัตรทอง ในปี 2563 กว่า 1.91 แสนล้านบาท โดยเพิ่มเม็ดเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจากปี 2562 กว่า 6,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบเหมาจ่ายรายหัว 3,600 บาท/ประชากร

ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยัน คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกองทุนบัตรทอง ในปี 2563 กว่า 1.91 แสนล้านบาท โดยเพิ่มเม็ดเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจากปี 2562 กว่า 6,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบเหมาจ่ายรายหัว 3,600 บาท/ประชากร เพิ่มสิทธิประโยชน์ปี 2563 ในการเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุม มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้งเพิ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงในเด็ก การคัดกรองมะเร็งลำไส้ การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจยีนส์ การผ่าตัดทางกล้องช่วยลดเวลาที่ต้องนอนใน รพ.ได้ เพิ่มยาป้องกันโรคเอดส์ เพิ่มการล้างไตทางหน้าท้องด้วยเครื่องที่บ้านให้กับผู้ป่วยที่ต้องล้างไต

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ครม. อนุมัติงบประมาณตามที่ สปสช. เสนอ แต่ให้ไปตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ จึงอาจทำให้ทางภาคประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าจะต้องใช้ตัวเลขของสำนักงบประมาณ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ชี้แจงในวันมอบนโยบายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีสาธารณสุข ว่าให้เน้นการบริหารงบประมาณปี 2563 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปรับระบบบริการ ลดความแออัด ให้ประชาชนมีทางเลือกในการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการนัดแพทย์ผ่านระบบ Application ลดเวลารอคิวที่โรงพยาบาลด้วย