เจาะแนวคิด “โอ้กะจู๋” จากความฝันวัยเด็ก สู่ธุรกิจ SMEs ร้านอาหาร 100 คิว 100 ล้าน

ซ้าย โจ้ – จิรายุทธ ภูวพูนผล , ขวา อู๋-ชลากร เอกชัยพัฒนกุล

          คุยกับเจ้าของธุรกิจ โอ้กะจู๋ จุดเริ่มต้นจากความฝันเล็กๆ ของเด็กหนุ่มวัย 15 ปี จากแปลงปลูกผัก สู่ร้านสเต็ก ผักออร์แกนิค ถูกใจคนรักสุขภาพ โดยมีมิตรภาพและครอบครัว เคียงข้างธุรกิจมาตลอด 9 ปี (ชมคลิป)

      ใครที่ชื่นชอบการทานสเต็กกับผักสดๆ แบบออร์แกนิค คงไม่มีใครไม่รู้จักร้าน “โอ้กะจู๋” ที่ขึ้นชื่อเรื่องของความอร่อย เสิร์ฟสเต็กพร้อมผักสดๆ จานโต ทำให้ทุกครั้งที่จะไปกินร้านนี้ ต้องรอคิวยาวมาก และล่าสุดตอนนี้ได้ขยายสาขาจาก เชียงใหม่ สู่กรุงเทพมหานคร เป็นสาขาที่ 7 เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า

ร้านโอ้กะจู๋ สาขาสยามสแควร์วัน

          จิรายุทธ ภูวพูนผล หรือ โจ้ หนึ่งในหุ่นส่วนร้านโอ้กะจู๋ เล่าว่าจุดเริ่มต้นก่อนที่จะมาเป็นร้านอาหารแบบนี้ มาจากการปลูกผักขายส่ง ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันในวัยเด็กของเขา กับ ชลากร เอกชัยพัฒนกุล หรือ อู๋ ที่อยากจะผูกผักขายด้วยกัน หลังเดินทางไปศึกษาดูงานที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเกิดความคิดว่าถ้าเรียนจบจะไปปลูกผักขายด้วยกัน โดยมีเพื่อนอีกคน คือ วรเดช สุชัยบุญศิริ หรือ ต้อง เพื่อนสนิทร่วมด้วย

แปลงผักออร์แกนิค แปลงแรก ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

เงินทุนก้อนแรก กู้จากพ่อ

          โจ้ จิรายุทธ บอกว่า หลังเรียนจบก็เริ่มทดลองปลูกผักแปลงแรก โดยอาศัยเงินทุนจากครอบครัว จำนวน 50,000 บาท และเริ่มปลูกผัก ทำโรงเรือน และขายส่งในพื้นที่ ซึ่งระหว่างการเริ่มลองผิดลองถูก ก็ประสบปัญหาหลายครั้ง ทั้งพายุ น้ำท่วม จนเกือบจะล้มเลิกความตั้งใจ แต่ด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันก็ทำให้พวกเขาผ่านจุดนั้นมาได้

ร้านโอ้กะจู๋สาขาแรก ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

ร้านโอ้กะจู๋สาขาแรก ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

ร้านโอ้กะจู๋สาขาแรก ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

จากแปลงผักสู่คาเฟ่โอ้กะจู๋สาขาแรก

          หลังปลูกผักขายส่งได้ประมาณ 2 ปี ก็เริ่มมีแนวคิดว่าอยากให้คนที่ได้กินผัก รู้ว่าผักออร์แกนิค ปลูกอย่างไร และอยากเพิ่มมูลค่าผัก จึงเกิดความคิดทำร้านขึ้นมาที่บริเวณหน้าแปลงผัก โดยระยะแรกไม่ได้คิดจะให้เป็นร้านอาหารใหญ่โต จึงทำเป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ นำไม้เก่ามาประกอบเป็นรถ และมีที่นั่งไม่ถึง 10 ที่ ส่วนชื่อร้านที่ตัดสินใจ ใช้ชื่อ “โอ้กะจู๋” ก็มีที่มาจากชื่อของ อู๋ กับ โจ้ ที่ผวนคำให้ดูฟังแล้วสะดุดหู คนจำง่าย ซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทั้ง 3 คน

ร้านโอ้กะจู๋ สาขาสยามสแควร์วัน

ลูกค้าเหมือนครอบครัว สู่สโลแกน “ปลูกผักเพราะรักแม่”

          โจ้ จิรายุทธ บอกว่า สิ่งทำคัญในการทำธุรกิจร้านอาหารของโอ้กะจู๋ คือการให้ความใส่ใจกับลูกค้า เปรียบเสมือนว่าเขาคือคนในครอบครัว อาหารทุกจานจะต้องใส่ความสด สะอาด เสิร์ฟจานโตๆ เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน โอ้กะจู๋ ที่แค่เห็นจานอาหาร ก็รู้เลยว่ามาจากร้านนี้แน่นอน และหากเป็นสาขาที่ จ.เชียงใหม่ ลูกค้า จะได้เห็นกระบวนการปลูกผัก ได้เห็นว่าผักที่นำมาเสิร์ฟ เก็บมาจากแปลงสดๆ

          ด้าน อู๋ ชลากร เล่าเสริมว่า แม่ เป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อเปิดร้านอาหาร ก็อยากให้อาหารทุกจาน ทุกเมนู ออกมาดี มีคุณภาพ เหมือนกับทำให้แม่ทาน จนเกิดเป็น สโลแกน โอ้กะจู๋ ปลูกผักเพราะรักแม่ ที่เปรียบลูกค้าเป็นเหมือนคนในครอบครัว และรักกันยาวๆ