วันนี้ “เซ็นทรัล วิลเลจ” เตรียมแถลงเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีข้อพิพาทกับ ทอท.

วันนี้ ผู้บริหารโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ เตรียมแถลงเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีข้อพิพาทกับ ทอท. หลังจากยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ด้าน ทอท. ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งเซ็นทรัล ระบุที่ผ่านมาเจ้าของโครงการไม่เคยขออนุญาต แต่พร้อมเจรจาประนีประนอม

วันนี้ (28 ส.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น จะมีการแถลงต่อสื่อมวลชน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และพาเยี่ยมชมโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ

หลังจากวานนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับการขออนุญาตตัดคันหินทางเท้า เพื่อทำทางเชื่อมโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ เข้า-ออกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าไปดูแลทั้งเรื่องโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 หรือเทอร์มินอล 2 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีการร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใส

และโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ โดยกำชับว่า จะต้องดูรายละเอียด รวมทั้งเรื่องกฎหมายให้รอบคอบ

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงกรณีที่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ยื่นหนังสือร้องเรียนนายกรัฐมนตรี เรื่องทอท.จงใจกลั่นแกล้งปิดทางเข้า-ออก โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ

นายนิตินัย กล่าวยืนยันว่า ทอท.ไม่ได้กลั่นแกล้งหรือสกัดการเปิดบริการของเซ็นทรัล วิลเลจ แต่ที่ผ่านมาเจ้าของโครงการไม่เคยขออนุญาต ทอท.จึงต้องปฏิบัติตามหลักการ เพราะไม่อาจปล่อยปละละเลย หรือสนับสนุนผู้กระทำผิดกฎหมายบนพื้นที่รัฐได้

ซึ่งแต่เดิมกรมทางหลวงเป็นผู้ดูแลและอนุญาตการก่อสร้างโครงการดังกล่าว รวมถึงทางเข้า-ออก ด้านถนนบางนา–บางวัว แล้ว แต่กรมทางหลวงใช้เกณฑ์การประเมินผลกระทบด้านถนนเป็นตัวชี้วัด ซึ่งต่อมากรมธนารักษ์ให้ ทอท.ดูแลพื้นที่ จึงต้องใช้เกณฑ์ประเมินด้านการบินเป็นหลัก

ส่วนประเด็นที่มีบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมาสั่งระงับการก่อสร้างโครงการในช่วงที่ใกล้เปิดใช้ นายนิตินัย ชี้แจงว่า กรมธนารักษ์มีหนังสือมาถึง ทอท. ให้เข้าไปตรวจสอบโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2562 จากนั้นจึงรวบรวมข้อมูลจากสายงานต่างๆ แล้วได้ข้อสรุปในเดือน เม.ย.ว่าให้เซ็นทรัลดำเนินการรื้อถอนถนนปูนดังกล่าว เพราะเป็นการรุกล้ำพื้นที่

จากนั้นในเดือน พ.ค. เซ็นทรัล ดำเนินการแล้วเสร็จ จึงคิดว่าจบกันแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปจนมาถึงเดือน ส.ค. กลับพบว่ามีการเตรียมติดตั้งท่อและที่กั้นเหล็กพร้อมเปิดใช้ ทั้งที่เคยแจ้งไปแล้วว่าพื้นที่จุดเข้า-ออกดังกล่าวดำเนินการไม่ได้ตามที่เป็นข่าว

“ตอนนี้กำลังระดมสมองว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ พอจะมีแนวทางเจรจากันได้หรือไม่ หรือต้องโอนความดูแลพื้นที่กลับไปเป็นของกรมทางหลวง เพื่อให้เข้าเงื่อนไขเดิมที่เคยขออนุญาต”

นายนิตินัย กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะส่งหนังสือสอบถามเรื่องผังเมือง ควบคู่ไปกับการส่งหนังสือเตือนความเสี่ยงต่อการติดธงแดง ไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยเฉพาะเรื่องแสงสว่าง เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้แสงมาก อาจกระทบการบิน ตลอดจนเรื่องของแสงเลเซอร์ที่สุ่มเสี่ยงว่า ไอเคโอ จะถือเป็นประเด็นสำคัญ

เพราะก่อนหน้านี้ มีสนามกอล์ฟที่เปิดห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 4 กม. มีการใช้เลเซอร์ ทำให้นักบินสับสนคิดว่าเป็นรันเวย์ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นข้อบกพร่องทางการบินที่ไอเคโอรายงาน ซึ่งเมื่อกลับมาดูที่เซ็นทรัล วิลเลจแล้ว เป็นโครงการที่ใหญ่กว่าสนามกอล์ฟดังกล่าวมาก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ทอท. ชี้ “เซ็นทรัล วิลเลจ” ใช้พื้นที่พลการ ส่อขัดกฎการบินสากล ห้างจ่อเปิด 31 ส.ค.นี้