“ตุ้ย ธีรภัทร์” เผยสาเหตุหย่า “นาตาชา” ทัศนคติ-มุมมองชีวิตไม่สอดคล้องกัน

ตุ้ย ธีรภัทร์ เผยสาเหตุปิดฉากชีวิตคู่ 11 ปีกับ แอนนา นาตาชา เพราะทัศนคติมุมมองการใช้ชีวิตไม่สอดคล้องกัน ยืนยันไม่มีเรื่องมือที่สามหรือปัญหาธุรกิจ ส่วนสถานะพ่อแม่ดูแลน้องไตตั้นลูกชายคนเดียวไม่มีวันเปลี่ยน

วันที่ 1 ก.ย. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล วัย 46 ปี นักแสดงนักร้อง อดีตผู้บริหารคลื่นวิทยุ Seed 97.5 FM เปิดอกแถลงข่าวเรื่องการหย่าร้างกับอดีตภรรยา แอนนา นาตาชา เปลี่ยนวิถี อดีตนางแบบชื่อดังวัย 51 ปีครั้งแรก โดยเจ้าตัวยอมรับตามข่าวว่า หย่าร่างกันจริงประมาณ 4-5 เดือน โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมาที่มีข่าวว่าเตียงหักนั้นเตียงไม่ได้หัก แต่เหมือนชีวิตคู่ของหลายๆ คน มีราบรื่นบ้างมีปัญหาบ้าง เป็นช่วงที่พยายามจะปรับตัวเข้าหากันและพยายามทำให้มันดีขึ้น แต่คงมาถึงจุดที่เราทั้งสองคนเห็นตรงกันและตัดสินใจกันด้วยเหตุและผลที่จะเปลี่ยนสถานะ

สาเหตุหลักเป็นเรื่องของทัศนคติและมุมมองการใช้ชีวิตที่อาจจะไม่สอดคล้องกัน ส่วนอายุที่ห่างกัน (ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 5 ปี) ยืนยันว่าไม่เกี่ยว แต่เป็นที่ความคิด มุมมองของชีวิตมากกว่า สำหรับน้องไตตั้นลูกชายคนเดียวจะอยู่กับแม่ แต่ตนก็อยู่ไม่ห่างกัน พร้อมปฏิเสธเรื่องมือที่สามและไม่มีเรื่องผู้หญิงที่แวะเวียนเข้ามาจนทำให้แอนนาเข้าใจผิด ย้ำประเด็นนี้ไม่มีผลในการตัดสินใจ

ตุ้ย ธีรภัทร์ ยอมรับว่า ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมมีเป็นระยะๆ ตามธรรมชาติเมื่อความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ต้องปรับเข้าหากัน แน่นอนว่าเป็นความเสียใจ ผิดหวัง เพราะว่าจุดเริ่มต้นในการสร้างความครอบครัวเกิดจากความตั้งใจที่ดี แต่เมื่อถึงช่วงหนึ่งของชีวิตที่มันไปต่อไม่ได้ก็ต้องยอมรับความจริงและคุยกันที่จะเปลี่ยนสถานะเปลี่ยนบทบาทเพื่อเป็นพ่อแม่ของลูก

ตอนนี้ไม่ทราบว่าน้องไตตั้นเข้าใจหรือไม่ คงเข้าใจวันหนึ่งแต่ไม่ต้องเตรียมคำตอบเชื่อว่าลูกมีสัญชาตญาณในการปรับตัวและเข้าใจ เชื่อว่าความรักระหว่างพ่อแม่เหมือนเดิมในความเป็นลูกรับรู้ได้ ด้วยความรักของเราทั้งสองคน เขาน่าจะมีพลังเติบโตในโลกที่หมุนเร็วมากได้อย่างแข็งแรง โดยก่อนแถลงข่าวอดีตภรรยาทราบ

“เสียดายอยู่แล้ว ถามว่าเสียดายแล้วต้องเดินต่อไหมก็ต้องเดินต่อ”

“ยังไม่ได้วางแผนอะไรทั้งสิ้น คิดว่าเราอยู่กับปัจจุบันทำให้ดีที่สุด หายใจลึกๆ ฮึบแล้วเดินต่อไป”

ผู้สื่อข่าวถามเรื่องธุรกิจที่มีข่าวทำให้ต้องเลิกรากัน ตุ้ย ธีรภัทร์ กล่าวว่า เรื่องธุรกิจเป็นปัญหาละเอียดซับซ้อน แต่ถามว่าเกี่ยวไหม ไม่เกี่ยว

เมื่อถามว่า วันนี้ยังรักแอนนาอยู่ไหม ตุ้ย ธีรภัทร์ ตอบว่า “รักในฐานะของความเป็นเพื่อนที่ดี ทีมเวิร์ค แชร์ความรักไปให้ลูกให้ดีที่สุด” ส่วนสภาพจิตใจของแอนนา ตุ้ย ธีรภัทร์ บอกว่า  แน่นอนต่างคนก็ต้องต่างผ่านช่วงเวลาของการเสียใจ แต่ว่าคงเป็นเวลาที่เราต้องปรับตัว และเดินต่อไปในทิศทางที่เราคิดว่าเหมาะสมที่สุด

ตุ้ย ธีรภัทร์ ตอบเรื่องที่ ธวัชชัย สัจจกุลไม่ทราบเรื่องหย่าร้าง ว่า คุณพ่ออยู่อีกที่หนึ่ง นานๆ จะนัดกินข้าว ท่านอายุมากเลยไม่อยากเอาเรื่องไม่สบายใจไปรบกวนจิตใจ ตอนนี้คุยเรียบร้อยแล้ว ก็บอกว่า อ้าวเหรอ หัวเราะ พ่อให้กำลังใจเสมอวิกฤติไหนๆ ในชีวิตเป็นธรรมชาติของชีวิตมนุษย์คงไม่มีอะไรเรียบเสมอหรือร้ายเสมอ ทุกอย่างก็ปนๆ กันไป เราก็แค่มีสติให้ดี ดำเนินชีวิตให้สมดุลที่สุด

“ไม่เกี่ยวกับว่าวันนี้จะทำให้โล่ง หรือพรุ่งนี้จะทำให้สบาย แต่คงจะเป็นอีกจุดที่เรามองเห็นแล้วว่าวันนึงก็คงจะชี้แจง เพียงแต่ว่าให้ถึงเวลานั้นก็คือวันนี้ ส่วนพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบ”

“มีสติดีกว่า มีสติกับทุกๆ การตัดสินใจ เดี๋ยวมันคงจะได้เห็นทางในการเดินต่อไป” ตุ้ย ธีรภัทร์ ตอบคำถามว่าตอนนี้มีสมาธิทำงานหรือไม่

“กระแสวิพากษ์วิจารณ์ยังไม่ได้อ่าน เพราะเพิ่งปิดกล้องละครเมื่อวาน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีคนใหม่ต้องระวังหรือไม่ ตุ้ย ธีรภัทร์ ตอบว่า อยู่ที่มุมมองธรรมชาติของเราเป็นอย่างไร แรงกดดันเป็นปกติ ในการทำงานเกือบ 20 ปี มีทั้งเรื่องราวสุ่มเสี่ยงบ้าง น่ายินดีบ้าง ไม่น่ายินดีบ้างปะปนกันไป จะกระทบอยู่ที่ตัวเราใจเรา

เมื่อถามว่า สามารถเจออดีตภรรยาได้หรือไม่ ตุ้ย ธีรภัทร์ บอกว่า พูดคุยอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ห่างกันมาก มีความห่วงใยให้กันและกันตลอดเวลา อย่างไรก็ตามเราก็ยังอยากสื่อสารความสุขกับลูกของเราอยู่ เพราะเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนชุดความให้ราบรื่นและไม่ต้องวางแผนอะไร คงดำเนินไปตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ในฐานะพ่อแม่ไม่เปลี่ยนและจะไม่มีวันเปลี่ยน

“เท่ากับตัวเองคงจะกลับมาทำความเข้าใจกับตัวเองบ้าง ก็ต้องบอกว่าวิกฤติครั้งนี้จะมีจุดที่เราต้องมองตัวเอง วิเคราะห์ตัวเองว่าในการเดินต่อไปเราบกพร่องตรงไหนแล้วจะแก้ไขได้อย่างไร แล้วจะทำให้กลับมามีพลังต่อได้อย่างไร”

ที่ผ่านมาเป็นคนทำงานจริงจังทุ่มเทโดยเฉพาะช่วงที่ Seed ประสบความสำเร็จมีส่วนที่ทำให้มีเวลาให้ครอบครัวน้อยหรือไม่ ตุ้ย ธีรภัทร์ ตอบว่า ในส่วนของเวลาแน่นอนก็มีผลกระทบอยู่ อาจจะโดยโดยธรรมชาติเราเป็นนักกีฬาเวลาลงสนามเราก็เต็มที่ มีผลกระทบไหมก็มี แต่มันจะเปลี่ยนธรรมชาติเราทำงานได้ไหม ต้องไปคิดก็ยากพอสมควร การทำงานหนักมีผล เคยมีปัญหาอยู่แล้ว พยายามมาตลอด เรื่องเวลาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเหมือนกัน

“คุยกันด้วยเหตุผลสติ เอาอารมณ์วางไว้ข้างๆ คิดว่า ถ้าเราไม่เปลี่ยนจะสร้างปัญหาเพิ่ม”

“ตอนนี้แยกบ้านกันแล้ว ยังอยู่ไม่ไกล มีโอกาสได้เจอกันเรื่อยๆ”

“ผมไม่ได้มองตัวเลข เวลา ไม่ใช่ปัจจัย ผมมองในมุมของทัศนคติ มุมมองการใช้ชีวิตต่างๆ ไม่สอดคล้องกัน”