SHARE

คัดลอกแล้ว

กรมสอบสวนคดีพิเศษเตรียมแถลงความคืบหน้าคดีอุ้มหาย “บิลลี่” แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย หลังพบหลักฐานใหม่ ถังน้ำมันบรรยุกระดูกและหลักฐานบางอย่าง เจ้าหน้าที่คาดมีความเชื่อมโยงคดีฆาตกรรมนี้

วันที่ 3 ก.ย.2562 รายงานข่าวแจ้งว่าวันนี้เวลาประมาณ 13:00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะแถลงข่าวความคืบหน้าของคดีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ หลังพบหลักฐานถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ถูกทิ้งน้ำใกล้กับสะพานแขวนในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภายในมีชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์และหลักฐานอื่นๆ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหลักฐานทั้งหมดถูกส่งตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดเพื่อยืนยันเรื่องเอกลักษณ์บุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า หลักฐานต่างๆ นั้นมีความเชื่อมโยงกับการหายตัวไปของบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย เมื่อ 5 ปีก่อน (17 เม.ย.2557)

พิณนภา พฤกษาพรรณ (มึนอ) ภรรยาของบิลลี่

ย้อนรอย 5 ปี ‘บิลลี่ถูกอุ้มหาย’

นายพอละจี รักจงเจริญ เป็นชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายกระเหรี่ยงเกิดที่บางกลอยบนผืนป่าแก่งกระจานหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ใจแผ่นดิน”  บิลลี่อ่านและเขียนภาษาไทยได้จึงเป็นไที่ไว้วางใจของชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นอกจานี้บิลลี่ยังเป็นนักปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชนชาวกะเหรี่ยง และเป็นหนึ่งในพยานคนสำคัญในคดีชาวบ้านบางกลอยที่ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชในคดีนำกำลังเข้ารื้อทำลายเผาบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวบ้านรวมถึงบ้านของ “ปู่คออี้” ผู้นำจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานด้วย

วันที่ 17 เม.ย.2557 บิลลี่เดินทางออกจากหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอยเข้าสู่ตัวเมืองในอำเภอแก่งกระจานและหายตัวไป ต่อมาชาวบ้านทราบว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้จับกุมบิลลี่ไปสอบสวน แต่ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน

วันที่ 18 เม.ย. 2557 ชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย ออกตามหาบิลลี่ และผู้ใหญ่บ้านบางกลอยเข้าแจ้งความคนหายที่ สภ.แก่งกระจาน ต่อมานายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานฯ ยอมรับว่าได้จับตัวบิลลี่ไปจริง เพราะเป็นผู้กุมผู้บุกรุกป่าพร้อมของกลางเป็นน้ำผึ้งเป็นจำนวนหนึ่ง เมื่อสอบสวน-ตักเตือนแล้วได้ปล่อยตัวไป

วันที่ 21 เม.ย. 2557 นางพิณนภา พฤกษาพรรณ (มึนอ) ภรรยาของบิลลี่ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน และชาวบ้านยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และพล.ต.ต.พีรชาติ รื่นเริง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ขอความเป็นธรรมและให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามการหายตัวไปของบิลลี่เร่งด่วน และขอให้มีการไต่ส่วนการหายของบิลลี่ แต่ต่อมาศาลยกคำร้อง โดยศาลระบุว่าหลักฐานไม่เพียงพอ

ช่วงเดือน มี.ค. 2560 มึนอ ภรรยาของบิลลี่ยื่นหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษให้เข้ามาตรวจสอบคดีนี้เป็นคดีพิเศษ แต่หลังจากสืบสวนไปได้ระยะหนึ่ง ดีเอสไอส่งหนังสือถึงภรรยาบิลลี่เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติไม่รับคดีบิลลี่เป็นคดีพิเศษ

กระทั่งปี 2561 ดีเอสไอรับคดีการหายตัวไปของบิลลี่เป็นคดีพิเศษ และเริ่มสอบสวนเมื่อปลาย เดือน มิ.ย.2561

ภาพและข้อมูลจาก สำนักข่าวชายขอบ, สำนักข่าวไทยพีบีเอส

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า