บุกจับอดีตผู้ช่วยหมอฟัน ขายรีเทนเนอร์เถื่อนผ่านเฟซบุ๊ก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. กระทรวงสาธารณสุข ร่วมตำรวจภูธรภาค 5 และสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1 บุกรวบอดีตผู้ช่วยทันตแพทย์ผันตัวเป็นหมอฟันจำหน่ายรีเทนเนอร์เถื่อนผ่านเพจเฟซบุ๊ก “รีเทนเนอร์ เชียงใหม่ จัดฟัน BM” ซึ่งมียอดไลค์และผู้ติดตามมากกว่า 10,000 ราย

วันที่ 10 ก.ย. 62 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1 บุกรวบอดีตผู้ช่วยทันตแพทย์ผันตัวเป็นหมอฟันเถื่อน ลักลอบจำหน่ายรีเทนเนอร์เถื่อนผ่านเพจเฟซบุ๊ก

นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สบส.ได้รับการประสานขอความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือ สสจ.เชียงใหม่ ให้ร่วมลงพื้นที่ดำเนินคดีกับผู้ลักลอบจำหน่ายอุปกรณ์คงสภาพฟัน หรือ รีเทนเนอร์ และอุปกรณ์ลวดดัดฟันแฟชั่นผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า “รีเทนเนอร์ เชียงใหม่ จัดฟัน BM” ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 ราย จึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกองกฎหมาย และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1 ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 และ สสจ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากการสืบสวนพบว่ารีเทนเนอร์เถื่อนเหล่านี้ ส่งจากบ้านพักแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จึงบุกเข้าจับกุมผู้กระทำผิด นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ดูแลเพจ เป็นหญิง อายุ 37 ปี เคยทำงานเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ แต่ปัจจุบัน ผันตัวมาเป็นหมอฟันเถื่อน ลักลอบจำหน่ายรีเทนเนอร์

“อันตรายจากการใช้รีเทนเนอร์เถื่อน ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของทันตแพทย์นั้นมีหลายประการ ทั้งวัสดุที่นำมาให้บริการนั้นอาจเป็นวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นวัสดุเลียนแบบอุปกรณ์จัดฟัน เป็นวัสดุเกรดต่ำที่มีสารปนเปื้อนจากโลหะหนักมีพิษ หรือสีที่ใช้อาจไม่ใช่สีที่ปลอดภัย หากมีการหลุดลอกหรือละลาย และกลืนเข้าไปในร่างกาย อาจจะกลายเป็นสารก่อโรคได้ ที่สำคัญเมื่อใส่รีเทนเนอร์แฟชั่นเข้าไปแล้วก็จะเกิดแรงกดที่ตัวฟันอาจ ทำให้ฟันเคลื่อนที่ เหงือกอักเสบ รากฟันได้รับการกระทบกระเทือน หรือลวดที่ใส่อาจจะบาดเนื้อเยื่อในช่องปาก กลายเป็นแผลจนลุกลามเป็นมะเร็งได้ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนให้เลือกรับบริการด้านทันตกรรม ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันหรือใส่รีเทนเนอร์จากสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย อย่าเอาร่างกายไปเสี่ยงเพราะเห็นแก่ของราคาถูก” นายแพทย์ณัฐวุฒิ กล่าว

เบื้องต้นได้แจ้ง 3 ข้อหา ประกอบด้วย
1. ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ขายสินค้าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น มีความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 1/2561 เรื่อง ห้ามขายสินค้าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป