สทนช. คาดสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดอุบลราชธานี เตรียมรับมวลน้ำก้อนใหญ่ในวันพรุ่งนี้ จนท.เร่งระบายน้ำ คาดจะคลี่คลายในอีก 25 วัน พร้อมเดินหน้าจัดตั้ง “วอร์รูม” ศูนย์บัญชาการกู้วิกฤติน้ำครบวงจร
วันนี้ (12 ก.ย.62) นายสมเกียรติ ประจำวงศ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดอุบลราชธานี ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำสูงสุดจะไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมูลสูงสุดในเย็นวันนี้ หรือพรุ่งนี้ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามเร่งระบายน้ำ จะมีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ทั้งพื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร และ อ.โขงเจียม คาดว่าจะใช้เวลาในการระบายน้ำ 25 วัน และคาดว่าอีกประมาณ 20 วันสถานการณ์น้ำจะลดลงในระดับตลิ่งได้ ยืนยันว่ากรณีเร่งสั่งการระบายน้ำ ไม่ได้หมายความว่าเร่งระบายจนหมด จนน้ำแห้งไป แต่จะพยายามนำน้ำที่มีอยู่เอาไปเก็บในแหล่งน้ำ ต่างๆ หรือแก้มลิงด้วย
อีกส่วนหนึ่งที่มีความเป็นห่วงในการระบายน้ำ คือเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งในตอนนี้แม้ว่าเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิตติ์ จะลดการระบายน้ำลง แต่ยังมีปริมาณน้ำมวลหนึ่งไหลผ่านเจ้าพระยา แต่แนวโน้มในเขื่อนเจ้าพระยาลดลงแล้ว แต่การดำเนินงานต่อไป หากมีการเปิด-ปิดบานประตูระบายน้ำเมื่อไหร่ ต้องมีการแจ้งให้ประชาชนทราบ และหากระบายน้ำมากกว่า 1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ต้องแจ้งให้คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับทราบด้วย เพื่อแจ้งข่าวให้ประชาชนทราบต่อไป
ขณะเดียวกัน ได้เร่งรัดจัดตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและกองอำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ (War Room) โดยมีพลเอกประวิตรวงษ์ สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหาน้ำให้เบ็ดเสร็จภายในขั้นตอนเดียว และดูแลและควบคุมระดับน้ำ การเปิดปิดประตูระบายน้ำ เนื่องจากก่อนหน้านี้จะต้องรอพระราชบัญญัติการบริหารจัดการน้ำเพียงอย่างเดียว ถึงจะสามารถตั้งศูนย์บริหารจัดการชั่วคราวได้ ซึ่งประกอบด้วย 1.ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บัญชาการ รองนายกรัฐมนตรีเป็นรองผู้บัญชาการ 2.กองอำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เชื่อมโยงข้อมูลทุกหน่วยงานด้านน้ำ โดยให้รายงาน ครม. รับทราบเป็นระยะ