สาวแจ้งเอาผิดคลินิก ผ่าตัดหน้าอกหวังลดไซส์ ทำนมเน่า-หัวนมหาย

สาวแจ้งความเอาผิดคลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ทำนมเน่า-หัวนมหาย หลังผ่าตัดลดหน้าอก หลังเกิดเหตุเครียดมากจนอยากฆ่าตัวตาย

วันที่ 12 ก.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความ พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วัชรพล วชิรกุลฑล รองสารวัตร (สอบสวน) สน.สุทธิสาร เพื่อให้ดำเนินคดีกับคลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง หลังจาก น.ส.เอ ทำศัลยกรรมลดขนาดของหน้าอก จนเกิดบาดแผลและส่งผลให้เน่าก่อนต้องตัดหัวนมทิ้ง ซึ่งแพทย์ผู้ให้การรักษากลับไม่รับผิดชอบและเยียวยาใดๆ จนส่งผลให้สภาพจิตใจแย่ลงไปเรื่อยๆ ถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย

น.ส.เอ เล่าว่า เมื่อประมาณปี 58 ตนเคยทำศัลยกรรมหน้าอกมาแล้วที่คลินิกย่านเพชรบุรี ซึ่งก็สามารถใช้ชีวิตและให้นมลูกได้ตามปกติ จนกระทั่งช่วงต้นเดือน ส.ค.62 ตนอยากลดขนาดหน้าอกลง และยกกระชับจึงหาข้อมูลของคลินิกศัลยกรรมต่างๆ ว่าหมอท่านใดมีความชำนาญ จนกระทั่งพบคลินิกแห่งนี้ ตรวจสอบแล้วพบว่าแพทย์ที่รักษาเป็นศัลยแพทย์ที่มีรายชื่อฐานข้อมูลจากแพทยสภา สาขาศัลยศาสตร์ตกแต่ง และมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมตั้งแต่ปี 31 รวมทั้งมีการรีวิวทั้งก่อน-หลังทำ จนเกิดความเชื่อใจ จึงตัดสินไปทำ

โดยเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ตนเดินทางไปยังคลินิก เวลาประมาณ 12.30 น. ตนเข้าห้องผ่าตัด โดยแพทย์ที่ลงมือผ่าตัดมีท่าทีเร่งรีบ และผ่าตัดเสร็จสิ้นในเวลา 13.40 น. ซึ่งเร็วผิดปกติ จากนั้นตนกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ตนกลับไปตัดไหม พบว่าบริเวณปานนมเป็นแผล และมีรอยดำคล้ำ จึงสอบถามว่าผิดปกติหรือไม่ ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นปกติ จนวันที่ 27 ส.ค. ตนสังเกตเห็นว่าแผลบริเวณหน้าอกเริ่มแข็ง จึงไปหาหมอที่คลินิกอีกครั้ง ซึ่งหมอแกะแผลบริเวณหัวนมออก พร้อมทั้งแสดงสีหน้าตกใจและหันไปมองกับผู้ช่วย 1 ครั้ง ก่อนนำน้ำเกลือและเบตาดีนใส่ผ้าพันแผลมาปิดบริเวณฐานหัวนมอีกครั้ง และกำชับกับตนว่าให้ส่งรูปมาดูอาการทุกวัน

จนวันที่ 3 ก.ย. ตนไปหาหมอเพื่อแกะแผลบริเวณหน้าอก แต่ครั้งนี้หมอกลับบอกให้ไปนอนบนเตียง และนำผ้ามาปิดใบหน้า ก่อนจะฉีดยาชาบริเวณหน้าอก จากนั้นตนรู้สึกเหมือนหมอกำลังแกะแผล และเย็บบริเวณหน้าอก เมื่อผ่านไปได้สักระยะตนพบว่าหน้าอกฝั่งขวาไม่มียอดปทุมถันแล้ว ตอนนั้นตนรู้สึกช็อกจนพูดไม่ออก ซึ่งก่อนหน้าไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการตัดหัวนมออกแต่อย่างใด

ตนขอคุยกับหมอเป็นการส่วนตัว เพราะรู้สึกแย่ เนื่องจากไม่สามารถให้นมบุตรได้ โดยขอค่าเยียวยาประมาณ 5 แสนบาท แต่ทางคลินิกบอกว่า ตนเรียกร้องมากเกินไป ไม่มีการขอโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หลังเกิดเรื่องเจ้าของคลินิกก็มีมาสอบถามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง และยินดีที่จะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดอยู่สักพัก ก่อนหายเงียบไปเช่นกัน ตนอยากให้มีการแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ เนื่องจากสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ยิ่งไปกว่านั้นอาการจากโรคซึมเศร้าที่ตนเป็นมานากว่า 10 ปี และกำลังรักษาตัวจนดีขึ้น หลังเกิดเรื่องทำให้ต้องเข้ารักษาอาการซึมเศร้าอีกครั้ง

นายไพศิษฐ์ บอกว่า เบื้องต้นจะมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหากระทำการโดยประมาทกับแพทย์ผู้รักษาและคลินิก ซึ่งเป็นการกระทำที่เกิดความเสียหายกับบุคคลจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนี้ในส่วนการเรียกร้องแพ่งค่าเสียหายนั้นตนเล็งเห็นว่าเป็นจำนวนที่ไม่สามารถไปตั้งตัวได้ แต่น่าจะสมเหตุสมผลกับการสูญเสียอวัยวะ ในส่วนคดีอาญาฐานกระทำการโดยประมาท ส่วนนี้ตนขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

พ.ต.ท.สืบพงศ์ กรุณา รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเชิญผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากพบว่าผู้ถูกกล่าวหามีการกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป