ไขทุกข้อสงสัย รับยาใกล้บ้าน เริ่ม 1 ต.ค. นี้

1 ต.ค. นี้ ผู้ป่วยจะเริ่มไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านได้แล้ว หากเข้าเกณฑ์ 4 ข้อ คือ  1. เป็นผู้ป่วยสิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง)  2. ป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด หรือโรคทางจิตเวช  3. แพทย์วิจัยฉัยแล้วว่า ผู้ป่วยสามารถรับยาที่ร้านยาได้  4. ผู้ป่วยยินดีไปรับยาที่ร้านยา

โดยจะนำร่องในโรงพยาบาล 50 แห่ง และร้านยาที่ผ่านมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขกว่า 500 ร้านทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาความแออัดในโรงพยาบาล และทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องรอคิวรับยาเป็นเวลานานอีก

เช็ก 4 เงื่อนไข ก่อนไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน 1 ต.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านอยู่ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้รวบรวมข้อสงสัยเหล่านั้นจากคอมเมนต์ของแฟนเพจ ไปหาคำตอบมาให้อ่านกันในบทความนี้

ขั้นแรก ก่อนจะไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านได้ ผู้ป่วยต้องไปพบแพทย์ตามนัดปกติก่อน

ถ้าแพทย์เห็นว่า ผู้ป่วยมีอาการคงที่ สามารถรับยาและตรวจวัดความดันหรือปริมาณน้ำตาลในเลือดที่ร้านยาใกล้บ้านได้ แพทย์จะประสานกับร้านยา กำหนดแนวปฏิบัติให้กับเภสัชกรประจำร้านยาดูแลผู้ป่วยคนนั้นๆ และคอยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับแพทย์ต่อไป ดังนั้น คนไข้จะยังคงได้รับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และต้องตรวจวัดความดันหรือปริมาณน้ำตาลในเลือดอยู่เป็นระยะเหมือนเดิม

เมื่อแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าผู้ป่วยสามารถไปรับยาที่ร้านยาได้ ตัวผู้ป่วยเองก็มีสิทธิ์เลือกว่า จะยังรับยาที่โรงพยาบาลเหมือนเดิม หรือ เปลี่ยนไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านแทน ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคนไข้ ไม่มีการบังคับ

แต่ข้อดีของการไปรับยาที่ร้าน คือ ผู้ป่วยไม่ต้องรอคิวในโรงพยาบาลนานๆ และจะมีเวลาสอบถามเภสัชกรเกี่ยวกับการใช้ยามากขึ้น เช่น ต้องกินยาอย่างไร, ยาที่ได้รับกินร่วมกับยาอื่นหรือยาสมุนไพรที่กินอยู่ได้หรือไม่ เป็นต้น

ร้านยาในโครงการกับโรงพยาบาลจะส่งต่อข้อมูลกันตลอด เพื่อที่จะดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติจะส่งตัวไปพบแพทย์ทันที

ยาจิตเวชจัดเป็นกลุ่มยาอันตราย ดังนั้นโรงพยาบาลและสภาวิชาชีพเภสัชกรรมจึงเตรียมความพร้อมให้กับเภสัชกรที่ร้านยาในโครงการแล้ว ทั้งการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยา การให้คำปรึกษาและดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย

ทั้งนี้ ร้านยาในโครงการทุกร้านจะต้องมีเภสัชกรประจำอยู่ตลอดเวลา คนไข้จึงสบายใจได้ว่าจะได้รับยาและคำแนะนำที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ

เภสัชกรที่ร้านยาจะจ่ายยาตามใบสั่งของแพทย์ ดังนั้น หากแพทย์เห็นว่าผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติจริงๆ ทางโรงพยาบาลจะจัดยาชนิดนั้นส่งไปให้ที่ร้านยา ผู้ป่วยก็จะสามารถไปรับยาได้โดยไม่เสียเงินเพิ่ม

สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน สามารถติดต่อทางโรงพยาบาลเพื่อลงทะเบียนเลือกร้านยาได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 62 โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม เพราะโครงการนี้อยู่ในสิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง)

ในเบื้องต้นโครงการนี้ยังไม่ครอบคลุมสิทธิ์การรักษาพยาบาลอื่นๆ ดังนั้น ผู้ใช้สิทธิ์ประกันสังคมจึงยังไม่สามารถขอรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านได้ ต้องเป็นผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เท่านั้น

และปัจจุบันยังใช้สิทธิ์ได้แค่ 4 โรค ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด และโรคทางจิตเวช

ดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้ที่นี่ https://www.nhso.go.th