เปิดอินไซต์จาก Traveloka นักท่องเที่ยวอาเซียน จองด่วน และแสวงหากิจกรรมฆ่าเวลา

ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การก้าวขึ้นมาเป็นยูนิคอร์นหรือสตาร์ตอัพระดับพันล้าน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับ ‘ทราเวลโลก้า’ (Traveloka) สตาร์ตอัพจากอินโดนีเซีย พวกเขาทำสำเร็จ ผ่านการตีโจทย์ Pain Point  ปัญหาและความต้องการของนักเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงติ 

Ferry Unardi ผู้ก่อตั้งทราเวลโลก้า คืออดีตวิศวกรของไมโครซอฟต์ ที่เคยประสบปัญหาในการค้นหาไฟลต์บินที่ดีที่สุดจากสหรัฐอเมริกากลับบ้านเกิดในอินโดนีเซีย ในปีนี้เขาอายุย่าง 30 ปี เขาเริ่มปลุกปั้นทราเวลโลก้าเมื่อ 8 ปีก่อน ตอนที่เขาอายุเลยหลักสองมาเพียงสองปีเท่านั้น ทราเวลโลก้าเปิดตัวมาด้วยการเป็นแพล็ตฟอร์มที่เปรียบเทียบและนำเสนอเที่ยวบินที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องราคาและเวลาบิน จากนั้นจึงเปิดให้บริการจองตั๋วบินและเที่ยวพักผ่านแพล็ตฟอร์มของตัวเอง และล่าสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทราเวลโลก้าเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาบริการที่ชื่นชอบ ผ่าน Traveloka Xperience ไม่ว่าจะร้านทำผม เกมเซ็นเตอร์ อีเวนต์น่าสนใจ หรือหากิจกรรมฆ่าเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงในต่างแดน เป็นบริการที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเสมือนอยู่ที่บ้านเกิดมากขึ้นในบางช่วงเวลา ด้วยเชื่อว่า บางทีนอกเหนือจากการเดินทางแล้ว ผู้คนยังต้องการค้นหาบริการ หรือประสบการณ์ที่ชื่นชอบ ในเมืองจุดหมายปลายทางด้วย

เร็วๆ นี้ Henry Hendrawan ประธานบริหารของทราเวลโลก้า กรุ๊ป ได้ให้สัมภาษณ์กับ นิกเกอิ เอเชียน รีวิว  ถึงเบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ว่า ความตั้งใจในการนำเสนอบริการที่เข้าใจอินไซด์ของคนอินโด และคนอาเซียน น่าจะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ทราเวลโลก้า ประสบความสำเร็จในบ้านเกิด มากกว่าแอปพลิเคชั่นต่างชาติที่เปิดตัวและทำตลาดมานานกว่า อย่าง Expedia หรือ Booking.com

“หลายแพล็ตฟอร์มบริการท่องเที่ยว มักวางกลยุทธ์โดยมองเพียงว่า เอเชียเป็นจุดหมายท่องเที่ยวของชาวตะวันตกเท่านั้น” Henry บอก

ทราเวลโลก้ามองจุดด้อยของชาวอินโดนีเซียว่า มีเพียง 5% เท่านั้นที่ถือครองเครดิตการ์ด ในขณะที่บรรดาสตาร์ตอัพหรือแอปฯ ต่างชาติต่างเน้นให้จ่ายผ่านบัตรเครดิต สำหรับการตลาดในประเทศบ้านเกิด ทราเวลโลก้าจึงนำเสนอช่องทางจ่ายที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน หรือการจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ของเชนร้านสะดวกซื้อหลายเจ้า อาทิ Indomaret ขณะที่เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 ทราเวลโลก้าเริ่มระบบการจ่ายเงิน PayLater ซึ่งเป็นระบบจ่ายเงินออนไลน์ที่ไม่ต้องใช้เครดิตการ์ด Hendrawan บอกว่าลูกค้ากว่า 500,000 คนได้ใช้บริการระบบนี้แล้วในระยะเวลาปีกว่าๆ 

“ลูกค้าต้องการเงินกู้อย่างมาก ตามนิสัยแล้วชาวอินโดชอบจัดทริปเพียง 2 วันก่อนเดินทางจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอินโดเป็นคนหุนหันพลันแล่นหรอกนะ แต่เพราะอินโดนีเซียไม่มีระบบการกู้เงินทุนหรือเครดิตการ์ดที่ดีมากพอ PayLater ทำให้ลูกค้าสามารถจองก่อนเมื่อเจอราคาที่ถูกใจและดีที่สุดสำหรับพวกเขา”  

นอกจากระบบจ่ายเงินที่เป็นมิตร Traveloka Xperience บริการใหม่จากทราเวลโลก้าที่เล่าให้ฟังไปคร่าวๆ เมื่อข้างต้น ทางแบรนด์ก็คาดหวังว่ามันจะเป็นอาวุธลับตัวใหม่ในการดึงดูดผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้นเช่นกัน Xperience นำเสนอ 15,000 กิจกรรมและบริการ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายไม่ได้เฉพาะแค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่รวมถึงคนท้องถิ่น ที่สามารถเข้ามาค้นหาสิ่งที่ตนเองอยากทำได้ในช่วงเวลาต่างๆ โดยเฉพาะในทุกสุดสัปดห์ Hendrawan อธิบายว่า นี่เป็นอีกก้าวสำคัญที่ทราเวลโลก้าจะก้าวจากทราเวลเอเจนซี ไปสู่แพล็ตฟอร์มท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบ ซึ่งก็เป็นทิศทางที่สตาร์ตอัพยูนิคอร์นหลายเจ้า กำลังพัฒนาไปเหมือนกัน สิ่งที่ทราเวลโลก้าทำ อาจเรียกได้ว่าพัฒนาจากธุรกิจรูปแบบเดียว สู่การเป็น superapp แอปพลิเคชั่นที่มีบริการหลายประเภทให้เลือกใช้ในแอปฯ เดียว เพื่อเจาะใจไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค เหมือนที่ไลน์ วีแชท แกร็บ และโก-เจ็ก ก็พยายามทำอยู่ในตอนนี้

ทั้งนี้ ในอินโดนีเซีย จากการสำรวจของสถาบันวิจัย Alvara ทราเวลโลก้าได้รับความนิยมจากคนอินโด โดยเฉพาะชาวมิลเลนเนียล มากถึง 79% ถือเป็นอันดับ 1 ในตลาด เจ้าอื่นๆ เช่น RivalTiket.com, Tiket’s parent และ Blibli.com ได้รับคะแนนความนิยม เจ้าละไม่ถึง 10% ในตลาด 

ตามสูตรสำเร็จของสตาร์ตอัพยูนิคอร์น ก้าวแรกจากที่ประสบความสำเร็จในประเทศ คือการขยายสู่นอกประเทศ  แน่นอนว่าปัจจุบัน ทราเวลโลก้าขยายบริการสู่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนหลายประเทศเรียบร้อยแล้ว ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย รวมถึงนอกอาเซียน อย่างประเทศออสเตรเลียด้วย 

แม้ว่าปัจจุบันทราเวลโลก้าจะยังคงติดลบทางด้านผลกำไร ซึ่งทางสตาร์ตอัพเองก็บอกว่าเป็นเรื่องปกติของยูนิคอร์นที่ในปีแรกๆ จะต้องยอมขาดทุนเพื่อเร่งการเติบโต แต่ดูเหมือนว่าทางนักลงทุนก็ยังให้ความเชื่อมั่น ก็คงจะต้องจับตากันต่อที่ก้าวถัดไป แน่นอนว่าทราเวลโลก้ามีเป้าหมายในการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO = Initial Public Offering) ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งในระหว่างนี้ ทราเวลโลก้าอยู่ในช่วงเวลาสำคัญสำหรับการสร้างความมั่นคงของแบรนด์ให้พร้อมก่อนถึงวันนั้น