วันที่ 8 ต.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า มีการหารือเรื่องการอภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรระหว่าง 17-18 ต.ค.นี้ และการวางตัวบุคคลที่จะรับผิดชอบอภิปราย โดยในสัปดาห์จะหารืออีกครั้ง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่มาชี้แจงข้อมูลและทำความเข้าใจ นอกจากนี้ยังเปิดให้ ส.ส.สะท้อนไปให้รัฐมนตรี นำไปแก้ไขด้วย
ส่วนกรณีเสียง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลปริ่มน้ำที่จะมีผลต่อการลงมติ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลที่จะดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเรื่องเสียงปริ่มน้ำเป็นเรื่องที่เราทราบอยู่แล้ว ซึ่งเรายังเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะดำเนินการไปได้อย่างราบรื่น
เมื่อถามถึงเรื่องการที่รัฐบาลที่นำโดยพรรคพลังประชารัฐทำงานมาแล้ว 3 เดือนได้ขับเคลื่อนเรื่องใดเป็นรูปธรรมให้สังคมเชื่อมั่น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในความเป็นรัฐบาลต้องมองในภาพรวม พรรคพลังประชารัฐในฐานะเป็นแกนนำได้พยายามประสานนโยบายของแต่ละพรรคร่วมให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด เราไม่ได้มองเฉพาะความเป็นพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น 2-3 เดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรีทุกคนพยายามเร่งรัดการทำงานของแต่ละกระทรวง
“เริ่มมีรูปธรรมของผลงานที่ออกมา แต่หลักใหญ่ๆ ต้องใช้เวลา แต่แน่นอนว่าเราพยายามขับเคลื่อนผลักดันสิ่งที่ทำให้รัฐบาลแก้ปัญหากับประชาชนให้ได้มากที่สุด โครงการที่ขับเคลื่อนไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการที่เราหาเสียงอย่างเดียวไว้ ถ้าโครงการใดดำเนินการได้เลยแล้วช่วยแก้ปัญหาระยะเริ่มต้นได้เราก็ดำเนินการ เช่น โครงการชิมช้อปใช้ ที่ไม่ได้หาเสียงไว้ แต่เป็นนโยบายของการกระตุ้นที่คิดว่าเป็นประโยชน์”
ถามถึงกรณีที่ที่บางโพลให้ผลงานของรัฐบาลสอบตก รมว.พลังงาน กล่าวว่า เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลตระหนักดีว่าต้องเร่งแก้ปัญหา แต่เรื่องเศรษฐกิจมีปัจจัยเกี่ยวข้องต่างๆ เราก็พยายามเร่งแก้ปัญหา หลายโครงการริเริ่มขึ้นแล้ว คงจะเร่งรัดแก้ปัญหาให้ทัน เราเข้ามา 2 เดือนกว่า ยังมีข้อติดขัดบางประการ เช่น เรื่องงบประมาณ ต้องดำเนินการควบคู่กันไปภายใต้ข้อจำกัด แต่มีการประเมินและให้ความสำคัญในการแก้ปัญหา