SHARE

คัดลอกแล้ว

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บรรยายพิเศษตอบโต้ ผบ.ทบ. ยืนยันฝ่ายค้านไม่แก้มาตรา 1 เหน็บแรงไม่เหมือนทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ จวกพูดจำลองให้เกิดสงครามเย็นในประเทศ

ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ วันที่ 11 ต.ค. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บรรยายพิเศษ หัวข้อ “แผ่นดินของเรามุมมองประชาชน บทบาทประชาชน ในการสร้างชาติ” นายปิยบุตร เริ่นต้นด้วยการกล่าวว่า ชื่อหัวแบบนี้ การบรรยายหัวข้อแบบนี้กล่าวตรงไปตรงมาไม่มีอ้อมค้อมกัน นี่คือปฏิกริยาตอบโต้การบรรยายของผู้บัญชาการทหารบกเมื่อวานนี้ ผู้บัญชาการทหารบกบรรยายไม่มีการเอ่ยชื่อนักการเมืองแบบเฉพาะเจาะจง แต่เมื่อฟังทั้งหมดคงทราบดีว่า หมายถึงพรรคอนาคตใหม่ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และอาจจะหมายถึงตนด้วย และอีกหลายๆ คนในพรรคอนาคตใหม่

นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า ตามรัฐธรรมนูญแล้ว อ่านรัฐธรรมนูญแล้วมาตรา 1 แก้ได้ แต่แก้ได้แล้วห้ามมีผลเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ห้ามเปลี่ยนรูปของรัฐ จากราชอาณาจักรเป็นรูปแบบอื่น ห้ามเปลี่ยนรูปแบบรัฐเดี่ยว ไปเป็นสหพันธ์ (มีคนที่นั่งฟังคนหนึ่งตะโกนถามว่า แล้วจะแก้ทำไม? นายปิบุตรตอบกลับว่า ฟังผมพูดให้จบก่อนครับ) แล้วถ้ามีการผลักดันการแก้ ประเทศไทยก็อุดรูไว้ด้วยการสร้างระบบให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ ตามมาตรา 255 และ 256  ถ้าใครริอ่านแก้เรื่องพวกนี้ แก้ไม่ได้เป็นอันขาด

“ดังนั้นจะวิพากษ์วิจารณ์อย่าใช้ความรู้สึก ประเด็นที่ผู้บัญชาการทหารบกพูดมาเป็นความเข้าใจรัฐธรรมนูญผิดทั้งหมด เป็นการนำข้ออ้างความคิดเห็นของนักวิชาการคนหนึ่งขึ้นมาแล้วมาใช้ทำลายความชอบธรรมในการขับเคลื่อนการแก้ไขรับธรรมนูญของซีกพรรคฝ่ายค้าน ท่านพยายามยึดโยงว่าการแก้รัฐธรรมนูญของซีกพรรคฝ่ายค้านจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งเรายืนยันว่าไม่จริง เราเห็นรัฐธรรมนูญอยู่แล้วว่ามันแก้ไม่ได้ รัฐธรรมนูญเชียนล็อคเอาไว้แบบนี้ และยังไม่นับที่พรรคฝ่ายค้านได้ประกาศต่อที่สาธารณะว่าเราจะไปร่างรับะรรมนูญฉบับใหม่ด้วยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และจะเว้นไม่เข้าไปแตะต้องหมวด 1 กับหมวด 2 ด้วยซ้ำ”

“ท่านผู้บัญชาการทหารบก จะต้องไม่นำความเข้าใจผิดของท่านเอง ความรู้สึกความเชื่อของท่านเองมาทำลายขบวนการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยโดยให้ประชาชนเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญมาเขียนรัฐธรรมนูญกันใหม่ ชี้ให้เห็นแบบนี้ครับ พวกเราแก้ไขรัฐธรรมนูญตามระบบใช้ช่องทางที่รัฐธรรมนูญ 60 เขียนไว้ คุณแก้รัฐธรรมนูญตามระบบ คุณไม่มีทางที่แก้แล้วจะไปเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ ไม่มีวัน คุณไม่มีวัน ไม่มีทาง ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดที่จะแก้รัฐธรรมนูญตามระบบแล้วเปลี่ยนรูปของรัฐใหม่ จากราชอาณาจักรเป็นรูปอื่น คุณไม่มีวันที่จะใช้ช่องทางการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงความเป็นรัฐเดี่ยวไปเป็นสหพันธ์ ไม่มีวัน ไม่มีทาง ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดที่จะทำในระบบแบบนี้ ดังนั้นพรรคการเมือง ส.ส. ประชาชนต่างๆ ที่กำลังขับเคลื่อนแก้รัฐธรรมนูญเขาแก้รัฐธรรมนูญตามระบบ เมื่อแก้ตามระบบจึงมีกรอบอยู่ว่าเพดานอยู่แค่ไน มันแก้ไม่ได้หรอกครับที่จินตนาการกันไป”

“ตรงกันข้ามคณะรัฐประหารเวลาเข้ามายึดอำนาจการปกครองประเทศเข้าฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งทั้งฉบับ เมื่อฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งทั้งฉบับ นั่นหมายความว่าข้อห้ามเรื่องการแก้ไม่มีอีกแล้วนะครับสุญญากาศนะครับ กลับไปที่ปี 0 คือไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นกรอบเป็นเกณฑ์อะไรทั้งสิ้น รัฐประหารต่างหากที่ฉีกรัฐธรรมนูญ ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน แล้วนี่แหล่ะครับที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงสิ่งที่รัฐสภาเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ใครกันแน่ พี่น้องประชาชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งต่อสู้กันสร้างพรรคการเมืองขึ้นมา รณรงค์ร่วมกันในระบบรัฐธรรมนูญที่พวกคุณออกแบบขึ้นมา ไม่มีวันหรอกครับที่พวกเขาจะไปเกินกรอบนี้ได้ ไม่มีทาง อยากให้คิดให้ดีว่าเรื่องแบบนี้เรื่องสำคัญแบบนี้ในท้ายที่สุดแล้ว คนที่มีปากกา คนที่มีมือมีปาก มีความคิด กับคนที่มีอาวุธ ใครกันแน่ที่ละเมิดมาตรา 1 ได้มากกว่ากัน”

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า รัฐสมัยใหม่หลายประเทศไม่เอากองทัพเข้ามายุ่งกับการเมือง ซึ่งเหตุผลเดียวที่จะคงอำนาจของกองทัพอยู่ได้ คือต้องมีวิกฤติ อยากให้กองทัพมีบทบาททางการเมืองตลอดไป จึงจำเป็นต้องให้ประเทศมีวิกฤติตลอดเวลา เขาจะได้ครองอำนาจอยู่ต่อไปในฐานะผู้รักษา แก้ไข วิกฤติ  (มีคนถามแทรกขึ้นมาว่า ใครเป็นสร้างวิกฤติ?) วิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้น นำมาซึ่งอำนาจพิเศษของทหารในการแทรงแซงทางการเมือง และทำเรื่องความยกเว้นให้เป็นเรื่องปกติ เช่น มาตรา 44 อยู่จนคุ้นชิน และว่า ต้องมีอยู่ตลอดเวลาทุกอย่างถูกผลิตผ่านวาทกรรมต่างๆ ภัยต่อความมั่นคง ภัยต่อคอมมิวนิสต์ มีบุคคลที่มีพฤติจาบจ้วงล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ มีคนที่มีความคิดแบ่งแยกดินแดน นักการเมืองเลว ทุจริตคอร์รัปชั่น มีความขัดแย้งกันจนบ้านเมืองจะแตกแยกลุกเป็นไฟ ชักศึกเข้าบ้าน และล่าสุดล้างสมองคนรุ่นใหม่

นายปิยบุตร กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัญหาของประเทศไทยตอนนี้เราติดหล่มกับความขัดแย้งมา 13 ปี ยากมากที่จะฝากไว้กับคนสามกลุ่ม ดังนี้ 1.กองทัพที่ไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตย แทรกแซงการเมืองได้เสมอ พร้อมรัฐประหารทุกเวลา หลงอยู่ในยุคสงครมเย็น 2. สื่อที่ยุ ยงปลุกปั่น ที่เรียกว่า ดาวสยาม 4.0 ไม่ได้ 3.รัฐบาลจากการสืบทอดอำนาจไม่ได้

ก็ถามท่านกลับไปดังๆ แล้วก็ถามประชาชน ปัญหาของประเทศชาติใหญ่ขนาดนี้ ยากขนาดนี้เราจะปล่อยสามกลุ่มนี้เข้ามาแก้ปัญหาให้เราหรือ ตนคิดว่าไม่มีทาง อยากเชิญชวน ผู้บัญชาการทหารบก ชนชั้นนำที่ครองอำนาจอยู่ให้มาร่วมพูดคุยกัน อย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ต้องเลิกสร้างศัตรูภายในใจ ท่านต้องยอมรับความเป็นจริง ปรากฎการณ์พรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ถ้ามองว่าคนพวกนี้ถูกปลุกปั่นท่านจะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

นายปิยบุตร กล่าวว่า เวลาท่านพูดถึงคุณพ่อผมเห็นใจตนก็น้ำตาซึมเหมือนกัน แต่อีกด้านหนึ่งมีพี่น้องประชาชน คนธรรมดาก็บาดเจ็บล้มตายจากสงครามภายในประเทศเหมือนกัน การพูดของท่านไม่เข้าใจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป สร้างศัตรู กระตุ้นให้เกิด clash of generations ที่ตนไม่อยากให้เกิด ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ไม่เคยมีความคิดแบ่งแยกรุ่นคนในประเทศนี้ออกจากกัน ท่านตอกลิ่ม แล้วจะเกิดการแตกแยกทางรุ่น ท่านดูถูกมันสมองคนรุ่นใหม่ ตามยุคสมัยไม่ทัน แม้พูดถูกแต่เขาจะไม่เชื่อ อย่าไปคุยแบบมีบทเรียน ตนวิงวอนอย่าให้วิธีการแบบนี้ และการบรรยายของผู้บัญชาทหารบก ทำให้เห็นว่าจำเป็นต้องสถาปนารัฐบาลพลเรือนให้อยู่เหนือกองทัพให้ได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า