อุทยานเตรียมตั้งเวทีแก้ปัญหาสัตว์ป่าหลังช้างป่า 11 ตัว ตกเหวนรก อช.เขาใหญ่

กรมอุทยานเตรียมจัดตั้งเวทีเสวนาประชุมหารือนแนวทางแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาช้างป่า และสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพื่อเป็นแผนแม่บทในระยะยาว พร้อมเชิญคุณจืด และกลุ่มอนุรักษ์โดยรอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และส่วนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ามาร่วมประชุมหารือ ในวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

วันที่ 17 ต.ค.2562 ที่หน่วยพิทักษ์เขาใหญ่ ขญ 21 (เขื่อนขุนด่านปราการชล) ทางกลุ่มอาสาดุสิตได้มาตั้งโรงครัวให้กับเจ้าหน้าที่ทีมกู้ซากช้างป่าที่ยังคงปฎิบัติหน้าที่หลังทำการกู้ซากช้างป่าไปได้แล้วถึง 3 ตัวก่อนหน้านี้ แม้ว่าหลังจากนี้พื้นที่ที่ซากช้างอีก 8 ตัวยังอยู่เหนือน้ำขึ้นไปจะมีอุปสรรคที่อันตราย กระแสน้ำที่รุนแรง โขนหินที่ลื่น หน้าผาที่สูงชัน และความเสี่ยงที่อาจจะถูกน้ำป่าไหลลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งมีคำสั่งจากอธิบดีให้เจ้าหน้าที่ทำการเก็บกู้ซากช้างป่าอีก 8ตัวให้แล้วเสร็จเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดมลภาวะจากซากช้าง ขณะที่ทางคณะกรรมการจังหวัดนครนายกได้ทำการตรวจวัดค่าน้ำ เมื่อวานอยู่ในเกณฑ์ปกติ อ้างผลการตรวจวัดคุณภาพน้้าเบื้องต้น วันที่ 16 ตุลาคม 2562

จุดที่ 1 บริเวณตาข่ายดักซากช้าง (เวลา 10.00 น.-11.00 น.)
ค่า DO (ออกซิเจนละลายน้ำ) = 7.0 มิลลิกรัม/ลิตร
ค่า pH (กรดด่าง) = 7.6
จุดที่ 2 บริเวณสปริงเวย์เขื่อน (เวลา 11.00 น.-12.00 น.)
ค่า DO (ออกซิเจนละลายน้ำ) = 8.0 มิลลิกรัม/ลิตร
ค่า pH (กรดด่าง) = 8.0

มาตรฐานโดยทั่วไป ค่า DO อยู่ระหว่าง 6-8 มิลลิกรัม/ลิตร และค่า pH อยู่ระหว่าง 6-8 มิลลิกรัม/ลิตร

สภาพน้ำที่ตรวจเบื้องต้น ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำ สภาพอากาศ อุณหภูมิ ณ เวลาที่เก็บนั้นๆ โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยานก็จะทำการตรวจวัดคุณภาพน้ำอยู่ตลอด เพื่อให้สภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ใช้น้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล อิงข้อมูล

นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่1 (ปราจีนบุรี) กล่าวว่า วันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตั้งกล้องดักถ่ายเพื่อติดตามดูซากช้าง2ตัวที่อยู่เลยขึ้นไป พร้อมหาทางสำรวจว่าจะมีเส้นทางใดที่จะสามารถเดินอ้อมเดินเลี่ยงเพื่อที่จะสามารถเข้าถึงตัวซางช้างได้ เพื่อรองรับการปฏิบัติงานต่อไป ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าแลพันธุ์พืชได้ส่งกำลังจากชุดเสือไฟของศูนย์ควบคุมไฟป่าจาก5สถานีจำนวน21 นาย เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่วันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ทางกรมได้สั่งการให้ศูนย์กู้ภัยภาคตะวันตกจากจังหวัดกาญจนบุรี 10 นาย มาร่วมปฏิบัติงาน ซึ่งทางพื้นที่ต้องสำรวจหาเส้นทางที่สามารถเข้าไปอย่างปลอดภัยและมีความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน พร้อมทั้งมีคำสั่ง หากพื้นที่ไหนหรือเผชิญเหตุที่รู้สึกไม่ปลอดภัยให้ยกเลิกภารกิจในตอนนั้นทันที
นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการกู้ซากช้างป่าทั้ง 11 ตัว ทางอุทยานได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จากมูลนิธิอภัยภูเบศ/สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติแห่งประเทศไทย/ มูลนิธิฮุก31และมูลนิธิอื่นๆ รวมถึงปากท้อง จากกลุ่มอาสาดุสิตที่ได้มาตั้งโรงครัวช่วยให้เจ้าหน้าที่ทุกนายมีเสบียงและปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมากังวลเรื่องการหุงหาอาหาร ณ ตอนนี้ทางทีมได้จัดการกู้ซากช้างได้แล้ว 3 ตัว เหลืออีก8 ตัว ซึ่งไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ซางทั้ง8อยู่ได้อย่างแน่นอน คาดว่าส่วนใหญ่อยู่ชั้นที่ 3 ซึ่งมีปริมาณน้ำอยู่เยอะมาก ขณะที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการให้พยายามเก็บกู้ซากช้างให้ได้ทั้งหมดเนื่องจากเกรงจะเกิดมลภาวะทางน้ำ ซึ่งทางทีมกุ้ซากช้างก็ได้พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนรองอธิบดีก็ได้สั่งการให้ส่งกำลังเข้ามาเสริม

ทั้งนี้ เมื่อวานคณะทำงานตามคำสั่งของจังหวัดนครนายกได้มาตรวจค่าน้ำ DO กับค่า PH อยู่ในค่าปกติ ซึ่งก็ต้องมีการวิเคราะห์อย่างละเอียดจากห้องแลปซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ2 สัปดาห์ ว่าจะมีเชื้อจุลลินทรีย์อย่างไร แต่ข้อมูลพื้นฐานผลเป็นปกติ ในส่วนที่เมื่อวานทางกลุ่มได้มีการเข้ามายื่นเรื่อง กรณีคุณจืดได้ประท้วงด้วยการอดข้าวที่บริเวณหน้าทางเข้าอุทยาน ตนได้รับเรื่องและได้แจ้งให้กับทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ โดยกำหนดประชุมหารือในวันที่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้ เวลา 10.00 น. ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยวันนี้จะมีหนังสือไปให้คุณจืดเพื่อจะได้มั่นใจว่าทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ขอขอบคุณผู้ที่ติดตามข่าวสารการปฏิบัติหน้าที่ของทีมกู้ซากช้างที่เข้าใจและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่

นาย บดินทร์ จันทศรีคำ ชมรมตนรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า ทางกลุ่มได้มียื่นเรื่องกับทางผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่1 (ปราจีนบุรี)ในนามเครือข่ายอนุรักษ์รอบผืนป่าเขาใหญ่ เพื่อต้องการให้ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตั้งเวที โดยรวมบุคคลเกี่ยวข้องกับกลุ่มอนุรักษ์ทั้งหมดรอบเขาใหญ่มาหาข้อสรุป ว่าอะไรที่สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้กับภาคราชการก็จะมาช่วยกัน นี่คือเนื้อหาสาระสำคัญหลังจากที่ได้ยื่นเรื่องในช่วงเช้า พอตอนบ่าย ทางอธิบดีกรมอุทยานได้มีคำสั่งมายังอุทยาแห่งชาติเขาใหญ่ให้มีการจัดตั้งเวที ขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้เวลา 10.00 น. พร้อมออกหนังสือเชิญหลายๆส่วนเข้ามาร่วมระดมความคิดเห็น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันช้างป่าเป็นหลักบริเวณน้ำตกเหวนรก จากนั้นก็จะเป็นเรื่องขยะหรือจำนวนนักท่องเที่ยวทีมีปริมาณมากขึ้นในอุทยาน  โดยหวังว่าหลังจากที่มีการเปิดเวทีประชุมในครั้งนี้จะมีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น โดยจะเริ่มเก็บข้อมูลช้างอย่างจริงจังเพื่อจะได้ทราบจำนวนประชากรช้างที่แท้จริงที่อยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนการแก้ไขและแนวทาง จะเป็นแผนในระยะยาวที่จะต้องทำในอนาคต ถือว่าเป็นแผนแม่บทหลังจากนี้ ในอดีตจะมีทางมหาวิทยาลัย คณะวนศาสตร์เข้ามาทำข้อมูลเชิงลึกของสัตว์ป่าของเขาใหญ่ทั้งหมด แต่สำหรับช้างป่ายังไม่มีการทำเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เมื่อปี2555 มีนิสิตปริญญาโทได้เคยทำเรื่องช้างเอาไว้ แต่เอกสารเหล่านั้นส่วนหนึ่งก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในปัจจุบันเท่าไหร่ ดังนั้นจึงต้องให้ทางกรมจัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาทำงานเรื่องนี้อย่างจริงจัง ในส่วนนวัตกรรมของทางอุทยานก็มีส่วนในการเก็บข้อมูลรอบๆที่มีช้างป่าออกไปหากินนอกพื้นที่ และจะนำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบ และจัดทำเป็นแฟนแม่บทซึ่งเป็นการทำงานระยะยาวนับจากนี้ไป ซึ่งจะมีประโยชน์เพื่อยืนยันว่า ประชากรกับพื้นที่ในขณะนี้เหมาะสมหรือไม่ ช้างในพื้นที่อุทยานมากไปหรือเปล่า หรือว่า พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในตอนนี้น้อยไปหรือเปล่า( จากการถูกรุกล้ำของชาวบ้านบริเวณรอบผืนป่า ที่มีมายาวนาน ) รวมไปถึง แหล่งน้ำ แหล่งอาหารของสัตว์ป่า สิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกได้ว่าสัตว์จะไปอยู่ยังบริเวณใดบ้าง เราก็จะรู้ว่าเราจะทำแนวป้องกันและสามารถติดตามพฤติกรรมของสัตว์ป่าต่อไปได้