“จุลพันธ์” ชี้ฝ่ายค้านหวังตัดงบไม่จำเป็นชั้น กมธ. – “ธนาธร” ได้เข้าสภาร่วมด้วย

จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติรับหลักการในวาระแรก ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงินงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท โดยเห็นด้วย 251 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 234 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง

วันที่ 20 ต.ค. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย คณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.วิสามัญ) พิจารณางบประมาณในสัดส่วนพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ถึงขั้นตอนการทำงานหลังจากนี้ว่า ต่อไปจะเป็นวาระ 2 กระบวนการในชั้นกรรมาธิการซึ่งเป็นการพิจารณารายมาตรา ตั้งแต่ภาพรวมของสถานะเศรษฐกิจการคลัง แล้วจึงจะเข้าสู่หน่วยงานต่างๆ เริ่มจากกระทรวงการคลังแล้วไล่ไปยังกระทรวงต่างๆ ซึ่ง กมธ.ชุดใหญ่จะถามภาพรวมแนวทางการบริหาร แนวนโยบาย

พอพิจารณาไปได้ประมาณครึ่งทางจะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมา 4-5 ด้าน เช่น ท้องถิ่น,การศึกษา,ก่อสร้าง, รัฐวิสาหกิจและกองทุน คณะอนุกรรมาธิการ จะพิจารณาปรับลด โดยจะเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละโครงการของด้านตนเอง เช่น เรื่องก่อสร้างจะนำโครงการทั้งหมดมาพิจารณารายโครงการและปรับลดเป็นรายเปอร์เซ็นต์ออกมา แล้วส่งคืนกรรมาธิการชุดใหญ่พิจารณาว่ารับหรือไม่รับการปรับลดนั้น

อย่างไรก็ตามจะไม่สามารถปรับลดวงเงินที่เป็นหลักการ 3.2 ล้านล้านบาทได้ กรรมาธิการจะทำได้คือพิจารณาปรับลด แล้วไปใส่ให้กับโครงการอื่นๆ ที่แต่ละกระทรวงเสนอมาที่สำนักงบประมาณ กรรมาธิการจะเป็นผู้พิจารณาลำดับความสำคัญว่าจะบรรจุกลับเข้าให้โครงการไหน

สำหรับอำนาจของกรรมาธิการ จะมีมากกว่า ส.ส. คือ ส.ส.ทั่วไปจะแปรญัตติปรับลดยอดได้เป็นเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นกรรมาธิการ จะสามารถปรับลดวงเงินหรือตัดทอนดึงรายการออกได้

เมื่อถามถึงสัดส่วนจำนวนเสียง ในคณะกรรมาธิการที่มี สัดส่วนคณะรัฐมนตรี 15 คน, ฝ่ายรัฐบาล 24 คน และฝ่ายค้าน 25 คน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สัดส่วนที่กำหนดเป็นเรื่องปกติที่คณะรัฐมนตรีจะได้สิทธิ์ 1 ใน 4 ซึ่ง พ.ร.บ.งบประมาณ เมื่อสัดส่วนคณะรัฐมนตรีรวมกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอย่างไรก็เป็นเสียงข้างมาก และกระบวนการตัดสินใจสุดท้ายต้องใช้การลงคะแนน ซึ่งหวังว่าเขาจะยังฟังเสียงสัดส่วนฝ่ายค้าน

“ได้แต่หวังว่าเขาจะรับฟังในสิ่งที่มีการท้วงติงในสภาผู้แทนราษฎรและจะมีการพูดถึงในชั้นกรรมาธิการแล้วก็นำไปปรับใช้บ้าง เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะทำได้ทั้งหมด แต่ว่าส่วนใดที่เขารับฟังเราก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์”

“ถ้าไม่รับฟังตอนที่กลับมาสภาเราก็คงต้องโหวตคว่ำ ถ้าเขาไม่รับฟังเราเลย”

ทั้งนี้ สัดส่วนกรรมาธิการของแต่ละพรรคไม่จำกัดว่าต้องเป็น ส.ส. เท่านั้น กรณีของพรรคอนาคตใหม่ จึงจะส่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ที่อยู่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญระงับการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเข้ามาเป็น กมธ.ในสัดส่วนของพรรคด้วย โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

เรื่องของวงเงิน 3.2 ล้านล้าน นั้นเป็นกรอบที่พรรครับได้ ไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่เรามีปัญหาคือเรื่องของรายละเอียดในการจัดสรรงบประมาณ ดังนั้น มติของพรรคจึงเป็นการงดออกเสียงในชั้นรับหลักการ เพื่อจะไปดูรายละเอียดในชั้นกรรมาธิการซึ่งเราจะทำอย่างเต็มที่ ภายใต้ 4 หลักคิด คือ 1.ลดงบดำเนินการแล้วเพิ่มงบการลงทุน 2. เปลี่ยนจากงบประมาณและการตัดสินใจอยู่ที่ส่วนกลาง ไปเป็นงบประมาณและการตัดสินใจที่ท้องถิ่น 3. ปรับการลงทุนเมกะโปรเจคเป็นการลงทุนเพื่อคนทุกคน และ 4. ลงทุนกับทรัพยากรมนุษย์โดย สร้างสวัสดิการสำหรับทุกคน

อุตตม สาวนายน รมว.คลัง

กมธ.สัดส่วนคณะรัฐมนตรี 15 คน

1.นายอุตตม สาวนายน 2.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 3.นายชยุต ภุมมะกาญจนะ 4.นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร 5.นายจุติ ไกรฤกษ์ 6.นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ 7.นายนพดล พลเสน 8.นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา 9.นายวราเทพ รัตนากร 10.นายสันติ กีระนันท์ 11.นายสุชาติ ชมกลิ่น 12.นายวิเชียร ชวลิต 13.พล.อ.กิตติธัช เอี่ยมสุวรรณ์ 14.นายวัชรพล โตมรศักดิ์ 15.นางนันทนา สงฆ์ประชา

กมธ.สัดส่วนฝ่ายค้าน 25 คน

พรรคเพื่อไทย 1.นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ 2.นายประเสริฐ บุญเรือง 3.นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ 4.นายเอกธนัช อินทร์รอด 5.นายเกรียง กัลป์ตินันท์ 6.นายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ 7.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ 8.นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์ 9.นายการุณ โหสกุล 10.นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล 11.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ 12.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ 13.นายชลน่าน ศรีแก้ว

พรรคอนาคตใหม่ 1.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 2. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล 3.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 4.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 5.นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงษ์วุฒิ 6.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ 7.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 8.นายวีรศักดิ์ เครือเทพ

พรรคพลังปวงชนไทย นายนิคม บุญวิเศษ  (โควตาพรรคเสรีรวมไทย)
พรรคประชาชาติ นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา
พรรคเพื่อชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์
พรรคเศรษฐกิจใหม่ นายสุภดิช อากาศฤกษ์

วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล

กมธ.สัดส่วนรัฐบาล 24 คน

พรรคพลังประชารัฐ 1.นายวิรัช รัตนเศรษฐ 2.นายวีรกร คำประกอบ 3.นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม 4.นายมณเฑียร สงฆ์ประชา 5. นายบุญสิงห์ วรินทร์รัตน์ 6.นายสัมพันธ์ มะยูโซะ 7.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 8.นายจักรัตน์ พั้วช่วย 9.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 10.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร 11.นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ 12.นายประทวน สุทธิอำนวยเดช

พรรคประชาธิปัตย์ 1.นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู 2.นายธารา ปิตุเตชะ 3.พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ 4.นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ 5.นายชัยชนะ เดชเดโช

พรรคภูมิใจไทย 1.น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วานิช 2.นายสมเจตน์ ลิมปพันธ์ 3.นายภราดร ปริศนานันทกุล 4.นายสฤษดิ์พงษ์ เกี่ยวข้อง 5.นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ

พรรคพลังท้องถิ่นไทย นายโกวิทย์ พวงงาม

พรรคชาติไทยพัฒนา นายอนุรักษ์ จุรีมาศ

สำหรับ กมธ.วิสามัญฯ นัดประชุมนัดแรก วันที่ 24 ต.ค. 62