โรงแรมอึ้ง! เจอ ดร. เบี้ยวค่าโรงแรม ญาติทักเฟซบุ๊กขอผ่อนใช้หนี้

โรงแรมมีอึ้ง เจอดอกเตอร์วัย 49 ปี เข้าพักโรงแรมนาน 21 คืน แต่สุดท้ายเบี้ยวเงินเกือบ 5 หมื่น และหนีไปติดต่อไม่ได้ สุดท้ายเรื่องแดง มีเฟซบุ๊กอ้างเป็นญาติดอกเตอร์ขอมาผ่อนใช้หนี้แทน

วันที่ 22 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านตำบลสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจาก ผู้จัดการโรงแรม น.ส.แพร ศรีฉัตราภิมุข ว่า มีชายวัย 49 ปี เป็นดอกเตอร์ ได้เข้ามาพักโรงแรม และเบี้ยวเงินค่าโรงแรม ก่อนหนีหายไป ซึ่งเมื่อไปถึงผู้จัดการโรงแรม ได้นำกระเป๋าเดินทางของ นายชยรพ สังข์ช่วย อายุ 49 ปี ที่เข้าพักในโรงแรมกว่า 21 คืน ก่อนจะหลบหนี มาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยบอกว่านายชยรพได้ทิ้งเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวไว้ภายในห้อง รวมทั้งสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทางโรงแรมได้เก็บรักษาไว้ หากนายชยรพจะเข้ามาชำระเงินที่ค้างไว้และรับกระเป๋าคืน ทางโรงแรมก็ยินดี

https://youtube.com/watch?v=7rLEuGKC3oY

ทั้งนี้ผู้จัดการโรงแรมบอกอีกว่า ตั้งแต่นายชยรพ หนีหายไป จนถึงขณะนี้ ก็ยังติดต่อไม่ได้ แต่ล่าสุดได้มีมีเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “นภารัตน์ กิติ” มีรูปโปรไฟล์เป็นผู้หญิงนั่งหันหลัง ส่งข้อความอินบ็อกติดต่อมาที่พนักงานของโรงแรม อ้างตัวว่าเป็นญาติของนายชยรพ พิมมาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น และบอกปกติเขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้ จนถึงตอนนี้ทางญาติก็ยังติดต่อไม่ได้เช่นกัน แต่เรื่องนี้ทางญาติก็จะขอรับผิดชอบด้วยการจ่ายเงินให้ แต่จะขอแบ่งจ่ายเป็นงวด งวดละ 5 พันถึง 1 หมื่นบาท จ่ายงวดแรกสิ้นเดือนนี้และจะทยอยจ่ายจนกว่าจะครบ และขอให้ทางโรงแรมยุติเรื่องนี้ไปสักพัก เพราะสงสารลูกของนายชยรพที่กำลังเรียนอยู่

โดยเรื่องนี้ น.ส.แพร ผู้จัดการโรงแรมก็บอกอีกว่า กรณีนี้ทางโรงแรมคงให้แบ่งชำระไม่ได้ เพราะเป็นยอดเงินที่ค่อนข้างสูงและทางโรงแรมต้องปิดบัญชีรับจ่าย โดยขอรับชำระเต็มจำนวนที่ค้างไว้ 48,225 บาท แต่หากยังไม่รับผิดชอบก็จะดำเนินคดีตามที่แจ้งความไว้ ไม่พอยังได้มีการตั้งข้อสังเกตุและสงสัยเจ้าของเฟซบุ๊กที่ทักมาด้วยว่า ทำไมถึงทราบเลขบัญชีของทางโรงแรมได้ ทั้งที่ไม่เคยบอกไป และมีเพียงนายชยรพเท่านั้นที่ทราบเลขบัญชี เพราะเคยโอนเงินจ่ายค่าเข้าพักครั้งก่อนหน้านี้

น.ส.แพร ศรีฉัตราภิมุข ผู้จัดการโรงแรม

อีกทั้งเหตุการณ์แบบนี้ทางโรงแรมเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก จึงได้ให้พนักงานทุกคนถือเป็นประสบการณ์ หลังจากนี้คงจะต้องมีการวางเงินประกันหรือมีมาตรการอื่นๆ มาใช้เพื่อลดความเสี่ยงถูกเบี้ยวอีก นอกจากนี้น.ส.แพร ได้ฝากไปถึง นายชยรพ ด้วยว่า ขอให้เห็นใจทางโรงแรม เพราะช่วงเวลาที่เข้าพักทางโรงแรมก็บริการเต็มที่ อย่าให้เรื่องเป็นแบบนี้เลย เพราะต้องเสียความรู้สึกกันทั้งสองฝ่าย