SHARE

คัดลอกแล้ว

.

จากกรณีที่  นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการทหาร สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวว่าได้รับมอบเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นใหม่จากบริษัทในสหรัฐอเมริกา 2 เครื่อง เพื่อใช้ในช่วงการประชุมอาเซียน โดยระบุคุณสมบัติเคยทดสอบที่ภาคใต้ สามารถตรวจระเบิด TNT ครึ่งปอนด์ในระยะ 8 เมตร หากปริมาณ 1 กรัม ใช้เวลาตรวจจับประมาณ 30 วินาที และได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ให้นำองค์ประกอบของระเบิด TNT เข้ามาในรัฐสภา ปรากฏว่าเครื่องตรวจในสภาไม่สามารถตรวจพบได้ แสดงว่ารัฐสภาแห่งนี้ไม่มีความปลอดภัย

วันที่ 30 ต.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เบื้องต้นจะติดตามว่าเรื่องดังกล่าวมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตในการนำสารประกอบวัตถุระเบิดเข้ามาในพื้นที่รัฐสภา และจะต้องตรวจสอบก่อนว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่

นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์

ด้าน นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภา กล่าวว่า การที่นายมงคลกิตติ์ นำเครื่องตรวจระเบิดที่อ้างว่ามีคุณภาพกว่ามาทดสอบ มีเจตนาขายของหรือไม่ โดนนายชวน ได้เรียกเจ้าหน้าที่ของสภาและส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยมาสอบถาม และกำชับให้ดูแลความปลอดภัยให้เข้มข้นอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก และได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายของสภาไปพิจารณากรณีที่เกิดขึ้น

“ถ้าเป็นระเบิดจริงเรื่องนี้ถือว่าเป็นความผิดที่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ ท่านประธานได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไปพิจารณาดูว่าจะดำเนินการกับนายมงคลกิตติ์อย่างไรต่อไป”

ด้านนายสุชาติ โรจน์ทองคำ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ประสานไปทางฝ่ายตรวจสอบวัตถุระเบิดที่มาตรวจสภาทุกวันประชุม พุธ-พฤหัสบดี โดยส่งเรื่องทั้งหมดให้ตรวจสอบ แล้วจะนำข้อมูลมาชี้แจงอีกครั้ง

ขณะที่ นายอภิรักษ์ บัวทอง เจ้าหน้าที่สำนักรักษาความปลอดภัย สภาผู้แทนราษฏรระบุว่า เครื่องสแกนระเบิดของสภาใช้สำหรับตรวจวัตถุระเบิด ไม่ใช่เครื่องตรวจสารตั้งต้นจึงตรวจไม่เจอ สารที่นำมาก็ปริมาณน้อย เครื่องของเราไว้สำหรับตรวจวัตถุระเบิด ส่วนเครื่องที่ท่านมงคลกิตติ์นำมาใช้ตรวจสารตั้งต้น ดังนั้นจึงเป็นคนละประเด็นกัน แต่ยืนยันว่าระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐาน

.

ต่อมานายมงคลกิตติ์ ชี้แจงว่า สารที่นำมาทดสอบ คือ ไนโตรเจนผง ไม่ผิดกฎหมาย โดยได้มาจากเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ที่เชิญมาร่วมทดสอบด้วย

จากนั้นเวลา 18.00 น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ นำระเบิด TNT มาทดสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจระเบิดว่า วัตถุดังกล่าวเป็นวัตถุดิบที่ต้องห้ามชัดแจ้งในการครอบครอง การที่นายมงคลกิตติ์ได้ครอบครองสารตั้งต้นวัตถุระเบิด ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย แม้จะอ้างการตรวจสอบในฐานะกรรมาธิการทหาร แต่จะต้องได้รับอนุญาตในการครอบครองและการนำเข้ามาในสภาจะต้องได้รับอนุญาตจากประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือเลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนายมงคลกิตติ์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นสมาชิกรัฐสภา มีหน้าที่ในการตรากฎหมายโดยตรง แต่กลับมาทำความผิดเสียเอง

นายสิระ กล่าวต่อว่า ตามพระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ประกอบกับประกาศกระทรวงกลาโหมเรื่อง กําหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 สารเคมีดังกล่าวเป็นการควบคุมมิให้ประชาชนผู้ใดครอบครอง เรื่องนี้ต้องมีการดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ฯตามกฎหมาย

ส่วนการปรากฎตัวของเจ้าหน้าที่ EOD ที่มากับนายมงคลกิตติ์ในวันนี้ ถือเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ ขอเรียกร้องไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบเรื่องนี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า