จับ “โกต๊อก” เสี่ยพันล้านหนีคดีค้าโรฮีนจา จนมุมเพราะหนีไปเข้าบ่อนไป

พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม.

วันที่ 3 พ.ย. ที่กองบัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. นำคณะแถลงข่าวการจับกุมตัวนายสุพัฒน์ หรือโกต๊อก สันติปิยกุล อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา โดยถูกศาลจังหวัดนาทวี ออกหมายจับ เลขที่ 401/2558 ลงวันที่ 11 ส.ค. 2558 ในฐานความผิด “สมคบและร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในทางร่างกายและเรียกค่าไถ่”

เจ้าหน้าที่จับกุมนายสุพัฒน์ หรือโกต๊อก ได้เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่ด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ในคดีเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่ร่วมขบวนการได้ ช่วงเดือนพ.ย. 2555 ถึงวันที่ 1พ.ค. 2558 เช่น นายบรรณจง ปองผล หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์, พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพลเรือนทั้งไทยและเมียนมา รวม 103 คน

สำหรับนายสุพัฒน์ เป็นนักธุรกิจดิวตี้ฟรีมูลค่าหลายพันล้าน ใน อ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่พบความเชื่อมโยงทางการเงินนับพันล้านบาท จึงได้ออกหมายจับ แต่นายสุพัฒน์ไหวตังหลบหนีข้ามชายแดนไปประเทศมาเลเซีย และใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ทางธุรกิจคอยให้การช่วยเหลือหลบซ่อนตัว ต่อมาสืบทราบว่าได้หลบหนีมาที่ประเทศกัมพูชาจึงได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศกัมพูชา ก่อนติดตามตัวและสามารถจับกุมได้ในที่สุด

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่ารู้จักกับ พล.ท.มนัส เพราะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยตนจะทำหน้าที่ฟอกเงิน ภายหลังถูกหมายจับได้หลบหนีไปที่ประเทศมาเลเซียเพื่อหลบซ่อนตัว แต่ที่มาประเทศกัมพูชาเพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นการพนันจึงข้ามไปมาระหว่าง 2 ประเทศจนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ดังกล่าว

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 กล่าวว่าสำหรับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวที่ยังหนีหมายจับขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 25 คน โดยแต่ละอยู่ระหว่างการติดตามตัว และจะติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เบิกตัว พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก และพวก ซึ่งเป็นจำเลยในคดีค้ามนุษย์ (โรฮีนจา) จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปยังศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์
.
จากกรณี เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพลเรือน สมคบกันค้ามนุษย์ โดยหลอกลวงขู่บังคับชาวบังคลาเทศและชาวโรฮีนจา รวม 80 คนมายังประเทศไทยและส่งไปมาเลเซีย โดยขายผู้เสียหายเป็นเงิน 60,000-70,000 บาทต่อคน

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2560 จำคุกจำเลยคน 62 คน เช่น พล.ท.มนัส 27 ปี, นายบรรณจง ปองผล หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีปาดังเบซาร์ 78 ปี ,นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีต นายก อบจ.สตูล 75 ปี ,พ.ต.ท. ชาญ อู่ทอง สว.ธร.สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี 27 ปี
.
ต่อมาอัยการโจทก์และจำเลยยื่นอุทธรณ์ โดยศาลพิพากษาเพิ่มโทษ พล.ท.มนัส คงแป้น เป็น 82 ปี จากความผิดค้ามมุษย์ 4 กรรมและความผิดฐานให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร
.
นายบรรณจง ปองผล เป็น 79 ปี ส่วนนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 75 ปี